คำวินิจฉัย ของศาลรัฐธรรมนูญชี้ชัด สูตร100  ว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.65 ที่ผ่านมา  ทำให้เกมการเมือง เปลี่ยนทิศ ทันที ! 

 โดยเฉพาะทุกสายตา หันมาจับจ้องกันที่ พรรคเพื่อไทย แทบไม่ต้องนัดหมาย เพราะจากนี้ไป กติกา การเลือกตั้งจะ เอื้อ ต่อพรรคเพื่อไทยมากกว่าใคร
 ทั้งการใช้รูปแบบ บัตร2ใบ และสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ด้วยการ หาร 100  โดยสูตรนี้ อย่าลืมว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้มีอิทธิพลต่อพรรคเพื่อไทย เคยบอกเอาไว้แล้วว่า เป็นทางที่ ถนัดที่สุด  

 โดยเฉพาะการใช้บัตร 2 ใบ เลือกทั้ง คน และ พรรค ส่วนการใช้สูตรหาร 100ได้ส่งผลในทางที่เป็น บวก  กับพรรคเพื่อไทย ที่อาจกลายเป็น พรรคอันดับหนึ่ง กวาดส.ส.เข้าสภาฯ ได้เป็นกอบ เป็นกำ  เกิน 200 ที่นั่ง ด้วยซ้ำ 

 สถานการณ์การเมืองวันนี้ฝ่ายที่ต้องกลับมา คิดหนัก ย่อมมีทั้งพรรคฝ่ายค้าน ที่เคย ร่วมรบ กันมาอย่าง พรรคก้าวไกล เนื่องจากสูตรหาร 100 และบัตร 2ใบ จะยิ่งทำให้พรรคมีขนาดเล็กลง  พ่ายทั้ง กระแส และ ตัวบุคคล 
 
ดังนั้นหมายความว่าในสนามเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทย  อาจเป็น ฝ่ายเลือก ว่าใครที่จะได้ทำงาน จับมือกัน ตั้งรัฐบาล  ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องเป็น พรรคก้าวไกล อีกต่อไป 

 เมื่อพรรคก้าวไกล อาจกลายเป็นพรรคขนาดเล็ก ถูกลดทอนเก้าอี้ส.ส.ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อด้วยสูตรเลือกตั้งใหม่  ส่งผลให้เวลานี้เกิดกระแสและข่าวลือที่สะพัดว่า โอกาสและความเป็นไปได้ที่ พรรคเพื่อไทย จะจับมือกับ พรรคพลังประชารัฐ ที่มี บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯเป็นหัวหน้าพรรค น่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ? 

 แต่อย่างไรก็ดี ในท่ามกลางกระแสข่าวดังกล่าว ดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยเองยังมี ปัจจัย ที่ต้องพิจารณาอีกมาก  เพราะหนทางเดินไปสู่การชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ อาจไม่ได้ราบรื่น อย่างที่คิด เมื่อในความเป็นจริงแล้ว พรรคการเมือง ที่เป็น แนวร่วมรบ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ต้องการจองที่นั่งกลับมาเป็นรัฐบาล ได้เปิดเกมบุกไปก่อนหน้านี้ และรอที่จะเปิดปฏิบัติการ ตัดแขนตัดขา พรรคเพื่อไทย ก่อนถึงวันเลือกตั้ง !