พลิกพลิ้ว ยืดหยุ่น และไร้กรอบ... อาจเป็นคำจำกัดความสำหรับการเมืองที่ขับเคลื่อน และขับเคี่ยวกันไปอย่างเข้มข้น ยามนี้ ทั้งที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามหรือแม้แต่ ฝ่ายเดียวกัน การเมืองไทย วุ่นวาย สับสน จนยากที่จะหา คำตอบ ได้ชัดเจนว่าที่สุดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไปทางไหน เมื่อ 2ป. ทั้ง บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กับ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เลือกที่จะสร้างความคลุมเครือเอาไว้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
เพราะไม่มีใครตอบได้ว่า ระหว่าง บิ๊กป้อม ในฐานะ พี่ใหญ่ กับ บิ๊กตู่ ในฐานะน้องรัก นั้น หันหลัง ให้กันจริงหรือไม่ หรือแยกกันเดินแล้วร่วมกันตี สกัด แลนด์สไลด์ ดับฝัน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะ เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงหรือไม่
เมื่อไม่มีความชัดเจน บรรดา พรรคร่วมรัฐบาล ไปจนถึงพรรคฝ่ายค้าน ก็ยากที่จะเคลื่อนไหวใดๆ ให้ชัดเจน
แม้ในการเลือกตั้งรอบหน้า จะใช้รูปแบบ บัตร2ใบ ที่น่าจะทำให้พรรคเพื่อไทย ได้เปรียบ มีโอกาสเข้าใกล้ชัยชนะมากกว่าพรรคอื่นๆ โดยเฉพาะคู่แข่งทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ หรือแม้แต่พรรครวมไทยสร้างชาติก็ตาม
แต่เมื่อในการต่อสู้ทางการเมืองนั้น ย่อมไม่ได้ อยู่เงื่อนไขที่ กติกา เท่านั้น หากแต่ยังอยู่ที่ว่า ก่อนเลือกตั้ง ก่อนลงสนาม บรรดา พรรคร่วมรัฐบาล วันนี้ต่างพากัน จับมือ กันไว้อย่างหลวมๆ ถึงแม้ไม่ใช่ สัญญา แต่ก็เหมือน เอ็มโอยู ว่าจะไปเจอกันที่ทำเนียบรัฐบาล อีกครั้ง หลังการเลือกตั้ง
ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องแปลกใจที่ พรรคเพื่อไทย ต้องปักธงเอาไว้ที่การชนะแบบแลนด์สไลด์ เพราะไม่คาดหวังว่าจะไปจับมือกับใคร กับพรรคไหนหลังเลือกตั้ง อาจเป็นการฝาก ชะตา เอาไว้กับ ศัตรู ที่อาจไม่มีทางเป็น มิตร กันได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้อนาคตของ 3ป. จะอยู่หรือไปด้วยกัน หรือจะแตกกันจริง ก็ล้วนแล้วแต่เป็น โจทย์ใหญ่มีผลต่อการวางแผนการเดินหน้าของทุกขั้ว !