ช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี และเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้มีโอกาสจัดงานใหญ่ประชุมระดับนานาชาติ คือ เอเปค 2022 ที่ผ่านมา ที่จะสร้างโอกาสให้ประเทศไทยได้พลิกฟื้นทางด้านเศรษฐกิจ จากกรอบความร่วมือของ 21 ประเทศ
ขณะที่แนวโน้มสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยนายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ได้ชี้แจงกับนักลงทุนว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะข้างหน้ายังเป็นไปตามที่ ธปท. คาดการณ์ไว้ แม้ว่าจะมีความเป็นห่วงในเรื่องของเศรษฐกิจโลกที่มีพัฒนาการชะลอตัวลง แต่ภาพรวมก็ไม่ได้กระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมากนัก ซึ่งเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังมีแรงส่งในเรื่องภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ ไม่ได้มาจากปัจจัยต่างประเทศมากนัก จึงยังมีแรงทนทานต่อเศรษฐกิจโลก ส่วนปีหน้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2565 ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% เป็นการเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2565 ที่ 2.5% และไตรมาส 1/2565 ที่ 2.2% ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของ ธปท. ทั้งปีนี้ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 3.3%
ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีการคาดการณ์ว่าปี 2566 เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งก็ประเมินว่ามีอยู่ 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอเมริกา และยุโรป ที่มีการใช้นโยบายอย่างเข้มข้น เพื่อลดสถานการณ์ความร้อนแรงของเงินเฟ้อ แต่หากมองในฝั่งเอเชียยังมีส่วนที่จะเข้ามาช่วยเหลือเกื้อกูลกันอยู่ โดยเป็นเรื่องของนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน หากปีหน้าจีนผ่อนคลายมาตรการได้จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว
ทั้งนี้หากมองเรื่องเศรษฐกิจโลกถดถอยในกลุ่มเอเชีย แม้ว่ามีการปรับประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา จากคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้จาก 3.2% ลดเหลือ 2.7% ในปีหน้าซึ่งต่ำลง แต่เศรษฐกิจเอเชีย แม้จะลดประมาณการลงมา แต่ยังเป็นเทรนด์ที่เศรษฐกิจขยายตัวขึ้น เช่น ปีนี้กระทรวงการคลังคาดว่าอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไทยปีนี้ จะขยายตัวได้ 3.4% และปีหน้าขยายตัว 3.8% เช่นเดียวกันกับจีน ปีนี้คาดขยายตัวได้ 1.6% และปีหน้า 4%"
นายอาคม ยังมองว่า เศรษฐกิจไทยมีความชัดเจนว่า มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น จากภาคการส่งออก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากค่าเงินบาท ต่อมาคือภาคการท่องเที่ยว ขณะนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยแล้ว 8.4 ล้านคน คาดว่าสิ้นปีนี้มีกว่า 10 ล้านคน หากปีหน้ากลุ่มนักท่องเที่ยว อาเซียน รวมทั้งอินเดีย เดินทางเข้ามาก็จะทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจปีหน้า เติบโตขึ้นด้วย และปีหน้า ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนที่มีความต่อเนื่อง จากโครงการต่างๆ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อีกช่องทางหนึ่ง ส่วนค่าเงินบาท แม้ปรับตัวแข็งค่าขึ้น แต่ยังอ่อนค่าอยู่เมื่อเทียบกับปีก่อนส่วนควรอยู่อัตราใดจึงเหมาะสม ไม่สามารถตอบได้
จากข้อมูลข้างต้น แนวโน้มเศรษฐกิจบ้านเรามีทิศทางที่สดใส พอมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ปีหน้าขออย่าให้มีเรื่องร้าย