การออกมาส่งเสียง ของ “โทนี วู๊ดซัม” หรือ “ ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งป้อมวิพากษ์วิจารณ์การเมือง กระแทก “รัฐบาล” ของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ผ่านคลับเฮ้าส์ในระยะหลังๆ ดูเหมือนว่า แม้เจ้าตัวจะเพิ่มดีกรีความเข้มข้น แต่ “ผลลัพท์” ที่ได้ อาจไม่คุ้มค่า คุ้มราคาเหมือนเคย !
เสียงวิจารณ์การทำงานจากโทนี ที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล อาจกลายเป็น “เสียงสะท้อน” ที่เดินทางไปไม่ถึงรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหลังเสร็จสิ้นการประชุมเอเปค 2022 เมื่อวันที่ 19 พ.ย.65 เมื่อรัฐบาลได้รับเสียงชื่นชมทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะตัวผู้นำประเทศในเขตเศรษฐกิจที่เข้าร่วมประชุม
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้นอกจากจะไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายค้าน อย่างพรรคเพื่อไทยแล้ว ยังทำให้ “เจ้าของพรรคตัวจริง” อย่างทักษิณ เองก็ “ขยับลำบาก” เช่นกัน
กระแสของพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ ถูกหลายฝ่ายมองว่า หากมีการเลือกตั้งใหม่ วันนี้ พรุ่งนี้ “ฝ่ายค้าน” น่าจะได้ประโยชน์ ได้เปรียบมากกว่า ฝ่ายรัฐบาล หลังจากที่ก่อนหน้านี้กระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในภาวะ “ดิ่งลง” อย่างต่อเนื่อง
เพราะแม้แต่ผลการสำรวจของโพลสำนักต่างๆ ยังมีชื่อ “บุตรสาว” ของอดีตนายกฯทักษิณ คือ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ติดชาร์ต ในฐานะผู้ที่ควรได้รับการเลือก เป็นนายกฯคนใหม่ เพื่อคนรุ่นใหม่
แต่เมื่อเวลานี้ ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ เริ่มกลับมาเป็นฝ่าย “พลิกเกม” ทวงกระแสคืนกลับมาได้เป็นกอบเป็นกำ หลังจบเอเปค 2022
และเพียงแค่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมย้ายเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ และอาจเป็น แคนดิเดตนายกฯให้อีกต่างหาก ส่งผลให้พรรครวมไทยสร้างชาติ กลายเป็น “หุ้นการเมือง” ที่ถูกจับตาทันทีทันใด
สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่ยังต้องอาศัย “พลัง”ในการขับเคลื่อน และผลักดันจาก ทักษิณ เป็น “ปัจจัยหลัก” อาจอยู่ในความยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้หลายคนในพรรคเพื่อไทย ต่างพากันลังเลไม่แน่ใจว่า หากมีการเลือกตั้ง วันนี้ พรุ่งนี้ โอกาสเกิดแลนด์สไลด์จะเป็นจริงได้หรือไม่?