การเดินสาย ลงพื้นที่ ของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมือวันจันทร์ที่ 21 พ.ย.65 ที่ผ่านมา นับเป็นจังหวะการเคลื่อนไหวในฐานะที่บิ๊กป้อม เองสวมหมวก 2 ใบ ทั้งในฐานะ ฝ่ายบริหารและพ่วงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในคราวเดียวกัน
กำหนดการลงพื้นที่ของพล.อ.ประวิตร ครั้งนี้ที่จังหวัดกำแพงเพชร เป็นไปเพื่อติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การดูแลจัดหาที่ดินทำกินให้แก่ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ที่โรงเรียนปางศิลาทองศึกษา ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร เพื่อมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเขียว-ป่าเขาสว่าง และป่าคลองห้วยทราย เนื้อที่ 12,951-1-91 ไร่
แน่นอนว่าการขยับของพล. อ.ประวิตร มีขึ้นเมื่อพรรคพลังประชารัฐ อยู่ในสถานการณ์ที่ต้อง เรียกความเชื่อมั่น ให้กลับมาโดยไว ไม่เช่นนั้น ข่าวลือ สารพัดเรื่องที่โหมเข้าใส่ ตั้งแต่ก่อนการประชุมเอเปค 2022 จนเสร็จสิ้นลงไปเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา จะกลายเป็น เงื่อนไข ที่บีบให้พลพรรคพลังประชารัฐ ตกอยู่ในความวุ่นวาย และตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะความไม่ชัดเจนว่า บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร อยู่กับพรรคพลังประชารัฐ หรือเลือกไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ บวกกับกระแสข่าวว่า ก๊วนเศรษฐกิจไทย ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และหัวหน้าพรรค เตรียมพากันกลับมาที่พรรคพลังประชารัฐ
เท่ากับว่า ศัตรูเก่า ของ พล.อ.ประยุทธ์ จะหวนคืนกลับมาอยู่ที่พลังประชารัฐ ยิ่งกลายเป็น เงื่อนไข ที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องการ ร่วมสังฆกรรม ด้วย
อย่างไรก็ดี การเดินสายลงพื้นที่ของพล.อ.ประวิตร รอบนี้คือการเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมา ทำให้พลังประชารัฐ ยังคงเป็นพรรคใหญ่แล้ว ล่าสุดพล.อ.ประวิตร ยัง แต่งตั้งคณะกรรมการทำนโยบายของพรรค โดยดึงเอาคนใกล้ตัวอย่าง ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขึ้นมานั่งเป็นประธานในชุดนี้ และไพบูลย์ คือหนึ่งมือทำงานที่บิ๊กป้อม ให้ความไว้วางใจ
การขยับของพลังประชารัฐ ดูจะมีความจำเป็นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กำลังจะกลายเป็น จิ๊กซอร์ การเมือง ที่เพิ่มความสำคัญ มากขึ้น !