“มะเร็ง”ยังเป็นโรคร้ายสำหรับมนุษย์ ที่แม้เรามักจะได้ยินว่ารู้เร็วมีโอกาสรักษาให้หายได้ แต่บางรายเรากลับพบว่าผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยง ก็ถูกมะเร็งเข้ามารุกรานเป็นภัยเงียบโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว กว่าจะตรวจพบก็เข้าสู่ระยะสุดท้าย
อ่านเรื่องราวของคุณหมอหนุ่มวัย 28 ปี นายแพทย์กฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 28 ปี อาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่การงานอาชีพกำลังไปได้สวย และมีแผนจะแต่งงาน แต่ต้องมาป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ทั้งที่เป็นผู้ที่ดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี เข้ายิมสม่ำเสมอ ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารคลีน ซึ่งได้แบ่งปันประสบการณ์ของเขาผ่านเพจ “สู้ดิวะ” โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการรักษาตัว ที่ผู้คนในสังคมออนไลน์ต่างให้กำลังใจในการต่อสู้กับโรคร้าย ซึ่งเรื่องราวของคุณหมอทำให้เราๆท่านๆได้ฉุกคิดในการดำเนินชีวิต
“ทุกคนมีโอกาสเป็นได้จริงๆครับ โลกเราตอนนี้มันไม่ปกติครับ ทั้งมลภาวะ อากาศ น้ำ รังสีต่างๆ ยีนส์เรามันพร้อมกลายพันธุ์”
ด้านนายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดทั่วโลก สำหรับประเทศไทยโรคมะเร็งปอดถือเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อย ซึ่งพบมากเป็นอันดับ 2 ในเพศชาย และอันดับ 5 ในเพศหญิงแต่ละปีจะมีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 17,222 ราย เป็นเพศชาย 10,766 ราย และเพศหญิง 6,456 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 14,586 ราย หรือคิดเป็น 40 รายต่อวัน
ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็งปอดคือการสูบบุหรี่ หรือการได้รับควันบุหรี่มือสองและการสัมผัสสารก่อมะเร็ง อาทิ ก๊าซเรดอน แร่ใยหิน รังสี ควันธูป ควันจากท่อไอเสีย และมลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในทางพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ในพระไตรปิฎกถึงคนไข้ ว่ามีอยู่ 3 จำพวก ความว่า
“…ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนไข้ 3 จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก 3จำพวกเป็นไฉน คนไข้บางคนในโลกนี้ ได้โภชนะ (อาหาร)ที่สบายหรือไม่ได้ก็ตาม ได้เภสัช (ยา)ที่สบายหรือไม่ได้ก็ตาม ได้อุปัฏฐาก (ผู้ดูแลหรือแพทย์ พยาบาล)ที่สมควรหรือไม่ได้ก็ตามย่อมไม่หายจากอาพาธนั้นได้เลย
คนไข้บางคนในโลกนี้ ได้โภชนะที่สบายหรือไม่ได้ก็ตาม ได้เภสัชที่สบายหรือไม่ได้ก็ตาม ได้อุปัฏฐากที่สมควรหรือไม่ได้ก็ตาม ย่อมหายจากอาพาธนั้นได้
คนไข้บางคนในโลกนี้ ได้โภชนะที่สบายจึงหายจากอาพาธนั้น เมื่อไม่ได้ย่อมไม่หาย ได้เภสัชที่สบายจึงหายจากอาพาธนั้น เมื่อไม่ได้ย่อมไม่หาย ได้อุปัฏฐากที่สมควรจึงหายจากอาพาธนั้น เมื่อไม่ได้ย่อมไม่หาย…”