ทีมข่าวคิดลึก
ต้องบอกว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกจังหวะเวลาเป็นอย่างยิ่ง สำหรับ"คนแดนไกล" ที่ชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ห่างหาย เงียบงันมาพักใหญ่เพราะล่าสุดเจ้าตัวเลือกออกจากที่ตั้งแล้วหันมา "เขย่า" ฝ่ายตรงข้ามคือ "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" ในยามที่ "บิ๊ก คสช." ต่างอยู่ในสภาพเพลี่ยงพล้ำกันถ้วนหน้า !
เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมาได้เกิดกิจกรรมทางการเมืองเพื่อร่วมรำลึกถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ครบรอบปีที่ 40 โดยมิได้นัดหมายทั้งในประเทศ และที่เมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกากลุ่มแนวร่วมคนเสื้อแดงได้ร่วมกันจัดงานด้วยเช่นกัน โดยที่งานนี้ทักษิณ ได้มาพูดคุยกับพี่น้องคนเสื้อแดง
เนื้อหาใจความที่ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ของคนเสื้อแดงในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าทักษิณ ไม่พอใจและรับไม่ได้กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับ "น้องสาว" เพราะ "ยิ่งลักษณ์ชินวัตร" อดีตนายกฯ ไม่เพียงแต่จะตกเป็นจำเลยในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น หากแต่ยังถูกขุดคุ้ยเรื่องปัญหาในการบริหารจัดการน้ำที่ล้มเหลว จนเกิดวิกฤติน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา
"รังแกน้องผมอย่างไม่เป็นธรรม ผมก็เฉย อดทนอยู่ จนแฟนหลายๆ คนทนไม่ไหวบอก ทำไมผมยอมเขาขนาดนี้ ก็ไม่อยากเป็นปัญหา อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างคลี่คลาย ตามที่เขาคิดว่าจะทำได้ แต่ผมเชื่อว่าทำไม่ได้ เพราะเขาเดินผิดทาง ยิ่งเดินยิ่งเป็นวัวพันหลักทหารนี่ ถ้าถามจะบอก ไม่ถามก็ไม่อยากจะเสือก" (6 ต.ค.2559)
นอกจากนี้ ในตอนหนึ่งทักษิณยังระบุด้วยว่า ประเทศไทยควรจะก้าวหน้าไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งที่ผ่านมา 10 ปี แต่ที่เกิดขึ้นไม่ได้เพราะยังมีคนบางกลุ่มที่มีความแค้นต่อตัวเขา รวมทั้งที่ผ่านมาได้มีการรัฐประหารมาแล้วถึงสองครั้งสองคราก็ตาม
แน่นอนว่าสิ่งที่ ทักษิณ สื่อออกมาชัดเจนครั้งนี้นอกเหนือไปจาก"ความคับแค้นใจ" เมื่อได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่น้องคนเสื้อแดง ในลอสแอนเจลิส คือท่าทีที่มุ่งตอบโต้คสช. จนทำให้กระแสที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ว่า ทักษิณ ยังมีความหวังที่จะได้โอกาส "เจรจา" กับคสช. เพื่อหาหนทางช่วย ยิ่งลักษณ์ให้พ้นจากคดีความที่จ่อคิวทั้งในทางคดีอาญา ไปจนถึงการชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวมูลค่าถึง 35,000 ล้านบาท
น่าสนใจว่าการออกมาส่งสัญญาณจากทักษิณ รอบนี้หลังจากที่อยู่ในความเงียบมานาน โดยเลือกวัน และ เวลา ในวันที่ 6 ต.ค. เป็นวันครบรอบปีที่ 40 ของเหตุการณ์ในบ้านเมืองที่ผ่านมานั้น มีความสอดคล้องกับการจัดกิจกรรมการร่วมรำลึกของทั้งที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งได้มีประชาชนและผู้ที่เคยอยู่ในร่วมในเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ซึ่งถือได้ว่างานรำลึกเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยในปีนี้นั้นมีความคึกคักมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นได้ด้วยความจงใจหรือบังเอิญ หรือเป็นเพราะทักษิณเองต้องการโหนกระแสในยามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯและหัวหน้า คสช. กำลังเจอกับมรสุมรอบด้าน จนทำให้กระทบต่อ "คะแนนนิยม" ซึ่งถือเป็น "จุดแข็ง" ของ พล.อ.ประยุทธ์ เองที่ได้ประคอง "เรือแป๊ะ" มาโดยตลอด
กระนั้นต้องยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเวลานี้ ยังมีประเด็นที่ต้องจับตานอกเหนือไปจากท่าทีจากทักษิณ ที่จงใจกระแทกใส่ คสช.เท่านั้น เพราะนี่อาจเป็นการเคลื่อนไหวที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ และคสช. สามารถประเมินได้เป็นอย่างดีถึง "พละกำลัง" ของฝ่ายตรงข้ามว่ายังสามารถสร้างผลกระทบได้หรือไม่ และมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยิ่งลักษณ์ อันถือเป็น "หัวใจ" ของทักษิณ และพรรคเพื่อไทยกำลังตกอยู่ในวงล้อมการตอบโต้ของทักษิณ จะมีเพียงแค่การส่งสัญญาณจากแดนไกลเท่านั้นจริงหรือไม่ !?