แสงไทย เค้าภูไทย
แม้จะผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 เกือบทุกด้าน แต่จากรายงานจำนวนผู้ป่วยใหม่และผู้เสียชีวิตยังไม่ลดลงเหลือหลักสิบต่อสัปดาห์ ขณะที่ไวรัสยังกลายพันธุ์ไม่หยุด ซ้ำเข้าฤดูระบาดของไข้หวัดใหญ่ ก็ทำให้หลายประเทศ กลับมากระชับมาตรการป้องกันใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะสหรัฐฯและจีน
จากรายงานภาวะระบาดของโควิด-19 ในประเทศ 7 วันในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 2,616 ราย เสียชีวิต 40 ราย
ตัวเลขนี้ ช่วงต้นเดือนและก่อนหน้านี้เป็นตัวเลขในรายงานประจำวัน จนเมื่อจำนวนลดลงวันละเหลือหลักร้อยจนหลักสิบ จึงเปลี่ยนจากรายงานประจำวันเป็นรายงานประจำสัปดาห์
จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเช่นนี้ ทำให้มีการผ่อนคลายและยกเลิกมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเช่นการยกเลิกโทษปรับคนไม่สวมหน้ากากอนามัย เป็นต้น จนดูเหมือนกับว่า เป็นภาวะปกติแล้ว
อย่างไรก็ตาม การที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และจำนวนผู้ตายยังมีอยู่ ย่อมแสดงว่าการระบาดของไวรัสโควิดยังมีอยู่ แม้จะเบาบางลง
อาการที่เกิดจากการติดเชื้อก็ไม่รุนแรงเหมือนสายพันธุ์เดลตาที่เป็นพันธุ์ตั้งต้นระบาด แต่การที่ยังมีผู้ติดเชื้อเสียชีวิต แสดงถึงพิษภัยของมันนั้นยังร้ายแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้อยู่
การกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด ยังคงเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน จากเริ่มกลายเป็นโอไมครอนจนถึงวันนี้น่าจะ 10 สายพันธุ์ย่อย (sub variants) แล้ว คือจาก BA-1 BA-6 มาเป็น BQ 1 BQ 1.1 และยังเจอ XBB ที่กำลังระบาดที่สิงคโปร์อีก
อาการติดเชื้อ แม้จะดูไม่รุนแรง เทียบได้กับไข้หวัดธรรมดา แต่เพราะสายพันธุ์ใหม่ๆติดง่าย หลบหลีกภูมิคุ้มกันเก่ง ก็ทำให้มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น
ช่วงที่การระบาดระลอกใหม่เริ่มซาลงนั้น ที่นิวยอร์ก เดือนกันยายนจำนวนติดเชื้อรายวันลดลงเหลือระดับ 2,000 ราย จึงมีการผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดเหมือนกับที่บ้านเรากำลังทำอยู่นี้
แต่พอเดือนตุลาคม ขณะนี้กลับเพิ่มเป็น 3,000 คนขึ้นไป
โดยเฉพาะสายพันธุ์ตระกูล BQ (BQ1.BQ 1.1) นั้นแพร่เชื้อเร็วมาก
แม้จะไม่รุนแรง อัตรานอนโรงพยาบาลน้อยกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ แต่ก็มีอาการใหม่ๆเกิดขึ้น
ยิ่งกว่านั้น อาการลองโควิดคือหายป่วยแล้วยังมีอาการตกค้างอยู่ ก็ยังไม่ต่างไปจากโควิดสายพันธุ์ต้นๆทิ้งไว้ให้ก่อนหน้านี้
เหล่านี้คือกรณีศึกษาที่เราควรรับรู้และนำมาเปรียบเทียบสร้างมาตรการป้องกันให้คนไทยต้องปฏิบัติ
คนไทยเป็นคนรักสบาย รักสนุก วันหยุดยาวเสาร์-อาทิตย์-จันทร์ ที่ผ่านมา แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ แออัดยัดเยียดไปด้วยนักท่องเที่ยว สวมหกน้ากากอนามัยก็มี ไม่สวมก็มาก
เกรงว่าการระบาดระลอกใหม่ด้วยไวรัสกลายพันธุ์ได้สายพันธุ์ย่อยใหม่ จะก่อให้เกิดการเจ็บป่วย ล้มตายกันมากเหมือนกับช่วงต้นปีนี้ได้
นอกจากโควิด-19 แล้ว ยังมีไข้หวัดประจำถิ่น ประจำฤดูกาลอีกตัวที่ได้เวลากลับมาระบาดตามฤดูกาลอีก นั่นคือไข้หวัดใหญ่ ที่ก่อนที่จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ประจำฤดูกาล มันเคยคร่าชีวิตคนทั่วโลกไปมากมาย มากกว่าที่โควิด-19 ระบาดครั้งนี้เสียอีก
อเมริกาเรียกไข้หวัดนี้ว่า Autumn Flu คือไข้หวัดใหญ่ฤดูใบไม้ร่วง ส่วนบ้านเราไม่หนาวจนใบไม้ร่วงขนาดนั้น จะเรียกว่าไข้หวัดใหญ่(ประจำ) ฤดูหนาวก็ได้
ยังมีไวรัสอีกสายพันธุ์ที่มาพร้อมกับอากาศเปลี่ยนฤดูเรียกว่า RSV (Respiratory Syncytial Virus ) เป้าหมายที่มันโจมตีคือระบบหายใจส่วนบนมักเป็นกับเด็ก
แต่ผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อจากเด็ก ก็เป็นได้และก็มีแล้ว 1 ราย ป่วยถึงตายเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้น จึงยังไม่ควรประมาท ยกเลิกมาตรการป้องกัน 100% ทีเดียว
สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลหรือสบู่ยังควรทำกันต่อไปในหมู่คนกลัวตาย
เรายังต้องอยู่กับโควิดไปอีกนาน ที่ผ่านมาอยู่กันมาได้ จนมีลมหายใจอยู่ทุกวันนี้กับมาตรการนี้ เป็นปีๆ
จะทำกันต่อ อยู่กันต่อไปอีกครึ่ง ค่อนปีไม่ได้หรือไง ?