หัวเรือใหญ่ จาก กลุ่มสามมิตร อย่าง สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ต้องออกมาตอบคำถามสื่อและสังคม ด้วยกันหลายครั้ง หลายครา ย้ำว่า กลุ่มสามมิตร จะไม่จาก พรรคพลังประชารัฐ อย่างแน่นอน 

 สมศักดิ์ แจงสื่อก่อนเข้าประชุมครม. เมื่อวันที่11 ต.ค.65 ที่ผ่านมา หลังจากที่มีกระแสข่าวสะพัดมาหลายวัน โดยระบุว่า  20 วันที่ผ่านมาผมยังไม่ได้พบใคร เพราะไปทำภารกิจที่ต่างประเทศมาตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. กลับมายังไม่ได้ปฏิบัติงานเพราะมีอาการป่วย  และยังย้ำอีกด้วยว่า  สามมิตรไม่คิดไปไหนครับ ยังยืนยันอยู่พลังประชารัฐ

 นอกจากนี้คำถามเดียวกันนี้ ยังถูกส่งไปที่ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และแกนนำกลุ่มสามมิตร ออกมายืนยันอีกเสียงว่า ไม่ไปไหน   ตลอดระยะเวลาที่ทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเกือบ 4 ปี ได้รับความกรุณาจากพล.อ.ประยุทธ์  ด้วยดีมาตลอด รวมไปถึงมีการสนับสนุนงบกลางนโยบาย ต่างๆในการช่วยเหลือ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชน 
 ผมก็มีความพึงพอใจ ผมจึงต้องอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ และยืนยันว่าจะไม่ไปไหน รวมทั้งกลุ่มสามมิตรก็ไม่ไปไหน และได้มีการพูดคุยกันภายในกลุ่มสามมิตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 
 
นอกจากนี้ ยังต้องไม่ลืมว่า กลุ่มสามมิตร ยังมี  อนุชา นาคาศัย  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีบทบาทสำคัญของกลุ่ม ซึ่งดูนิ่งสงบไม่ออกอาการใดๆ  การเคลื่อนไหวในทางการเมืองของกลุ่มสามมิตร ถูกจับตามาโดย ว่าสมศักดิ์ และสุริยะ จะยกพลกลับไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย พรรคการเมืองเดิมหรือไม่ หรือจะอยู่สนับสนุนขั้วอำนาจของ 3ป.  แต่วันนี้ ปรากฏว่า แกนนำสามมิตร ต่างออกมายืนยัน และย้ำว่า จะไม่ไปไหน ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งรอบหน้า  ส่วนหนึ่งมาจากหลายเงื่อนไข หลากเหตุปัจจัย ที่แน่นอนว่า เซียนการเมือง ระดับ สมศักดิ์ ย่อม อ่านเกมออก  

 ประเมินได้ว่าระหว่างย้ายออกจากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถึงอย่างไร 3ป. จะต้อง ต่อวีซ่า ยืนหยัดกลับมาเป็น แกนนำรัฐบาล ให้ได้ จนถึงขั้นที่ว่า ปิดประตู ที่จะไปเป็น ฝ่ายค้าน 

 ขณะที่พรรคเพื่อไทยนั้น การประกาศว่าต้องชนะการเลือกตั้ง  ขอเป็น แกนนำฝ่ายค้าน เป็นครั้งสุดท้าย แต่ดูเหมือนว่าในความเป็นจริงแล้ว โอกาสและความเป็นไปได้ ยังมีอีกหลายเงื่อนไข ที่จะทำให้เกิดขึ้นได้จริง !
 โดยเฉพาะวันนี้พรรคเพื่อไทย ยังไม่สามารถ เคาะ ได้ว่า ใครคือ แคนดิเดตนายกฯตัวจริง นอกจากการชู อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนี่คือ จุดอ่อน ที่ นายห้างดูไบ กำลังหาทางแก้เกม !