การกลับมาของ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังสิ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.65 ที่ผ่านมา กำลังทำให้บรรยากาศทางการเมือง กลับมาคึกคักระลอกใหม่      เพราะทั้งฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ต่างพากันเตรียมเปิดเกมใหม่  เพื่อเร่งเก็บแต้ม หลังจากที่ก่อนหน้านี้เสียคะแนนนิยมไปไม่น้อย นับจากวันที่ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกฯ ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยคำร้องปม นายกฯ8ปี     

ขณะที่ ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งไม่ได้มีเพียง พรรคฝ่ายค้าน ในสภาฯที่ดาหน้ากันออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว ไม่ยอมรับที่พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาทำหน้าที่อีกครั้งแล้ว ยังต้องไม่ลืมว่าแท้จริงแล้ว ใน พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็น พรรคหลักแกนนำรัฐบาล เองกลับมี อาการ ไม่ปกติ ขึ้นมา !      

ทุกสายตาพากันพุ่งไปจับจ้องที่พรรคพลังประชารัฐทันที เมื่อล่าสุด 1 ต.ค.ที่ผ่านมา  วีระกร คำประกอบ  ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้ข่าวชนิดที่เรียกว่า ไม่มีกั๊ก  ว่าพรรคจะเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ 3ชื่อ ในการเลือกตั้งรอบหน้า โดยจะเสนอชื่อทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อีกคนกำลังพิจารณาอยู่      

สมัยหน้าเป็นรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะมี ส.ว.มาช่วยสนับสนุน ดังนั้น ต้องดันลุงป้อมเป็นนายกฯ ส่วนลุงตู่ไปเป็นรองนายกฯ หรือรมว.กลาโหม หรือโยกเป็น รมว.มหาดไทย ก็ได้ ถึงลุงตู่เคยเป็นนายกฯมาแล้ว จะมาเป็นรองนายกฯก็ไม่เป็นไร เพราะ 3 คน พี่น้องแน่นเฟ้นกันเหนียวแน่น มองบ้านเมืองเป็นหลัก     

แน่นอนว่าการส่งสัญญาณเช่นนี้ย่อมไม่เป็น ผลดี ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างชัดเจน เพราะหากย้อนกลับไปจะพบว่าแกนนำในพรรคต้องตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงความชัดเจนเรื่องการชงชื่อแคนดิเดตมาหลายครั้ง ว่าจะเสนอพล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียวหรือไม่ ในท่ามกลางกระแสข่าวความขัดแย้ง ระหว่าง พี่น้อง 3ป.  กันเอง      

ยิ่งเมื่อในห้วงเวลาที่บิ๊กป้อม ทำหน้าที่ รักษาการนายกฯ ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องหยุดปฏิบัติงานในฐานะ สร.1 ยิ่งทำให้ถูก ตีความ ว่ารัศมี  พี่ใหญ่ กำลังเหนือกว่าบิ๊กตู่  แต่เหนืออื่นใด แรงกระเพื่อมที่กำลังเกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ นั้นย่อมไม่ใช่ เกมชั้นเดียว ที่มองเห็นอยู่เบื้องหน้า แต่ลึกๆไปกว่านั้น อย่าลืมว่า ถึงอย่างไร 3ป. มาด้วยกัน ก็ต้องอยู่และไปด้วยกัน อยู่ดี !