แม้ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.... จะถูกสภาผู้แทนราษฎรตีกลับให้ไปทบทวนใหม่ โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … (กมธ.กัญชาฯ) พ.ศ. ได้ส่งหนังสือไปยังทุกพรรคการเมืองที่ลงมติให้ถอดร่างกฎหมายดังกล่าวออกจากระเบียบวาระ และขอให้ส่งประเด็นที่ทักท้วงให้กมธ.พิจารณาภายใน 7 วัน เพื่อนัดประชุมอีกครั้งวันที่ 3 ตุลาคม สะท้อนถึงการเร่งผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวอย่างรวดเร็ว
กระนั้น ในระหว่างที่ร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ มีความกังวลของหลายฝ่ายว่าจะเกิดสุญญากาศในช่วงที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมนั้น
เรื่องนี้น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลขอยืนยันว่า ปัจจุบันมีกฎหมายที่ควบคุมการใช้กัญชา กัญชงให้เหมาะสมอย่างรอบด้าน โดยมีกฎหมายที่กระทรวงสาธารณสุขออกมาแล้ว ได้แก่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ.2565 มีผลบังคับมาตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 65 ควบคุมไม่ให้มีการ สูบ เสพในที่สาธารณะทุกประเภท หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พระราชบัญญัติการสาธารณสุข จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) ที่มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.65 มุ่งกำกับให้มีการใช้กัญชาในฐานะพืชสมุนไพรควบคุมให้เป็นไปอย่างเหมาะสม จำกัดการครอบครองช่อดอกกัญชาทั้งระดับบุคคลและวิสาหกิจชุมชน มีการห้ามจำหน่ายกัญชาให้แก่ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี, สตรีมีครรภ์ หรือสตรีที่ให้นมบุตร หากฝ่าฝืนก็ต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
ขณะที่การควบคุมการนำกัญชาไปประกอบอาหาร มีประกาศกรมอนามัย เรื่อง การนำใบกัญชามาใช้ในการทำ ประกอบหรือปรุงอาหาร ในสถานประกอบกิจการอาหาร พ.ศ. 2565 ซึ่งกำหนดให้สถานประกอบกิจการต้องควบคุม กำกับ และจัดให้มีการสื่อสารข้อมูลด้านสุขภาพและการต้องตระหนักถึงความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการจำหน่ายอาหารที่มีการใช้ใบกัญชาเป็นส่วนประกอบ
ทางด้านผู้ประกอบการที่จะนำกัญชา กัญชงไปใช้ในกระบวนการผลิตเป็นสินค้า ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องสำอาง ก็ต้องมีการขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นๆ
ฉะนั้น เราจะเห็นว่าควรย้ำให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามประกาศควบคุมต่างๆ อย่าได้คิดเฉไฉไถลออกนอกเส้นทางในห้วงเวลานี้ ก่อนที่กฎหมายจะควบคุมให้ไปถึงเป้าหมายกัญชาเพื่อการแพทย์