แสงไทย เค้าภูไทย

กัญชากลายเป็นประเด็นการเมือง เมื่อพรรคใหญ่ฝ่ายค้านกับพรรคร่วมรัฐบาลรวมหัวกันคว่ำร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง จนต้องถอนออกไป ขณะที่บุคลากรแพทย์นับพันเรียกร้องให้ยกเลิกกัญชาเสรี เกรงจะทำให้เกิดพิษภัยต่อเยาวชน

ภาคการเมืองเห็นว่าการเปิดกัญชาเสรีเป็นการสร้างคะแนนนิยมให้ภูมิใจไทย ที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการผลักดันกัญชาจนเปิดเสรีได้สำเร็จ

พรรคที่กลัวเสียพื้นที่ฐานเสียงสำคัญ จึงร่วมกันคว่ำ พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฉบับนี้

โดยเพื่อไทยหวั่นว่าภูมิใจไทยจะแย่งคะแนนเสียงภาคอีสานที่เป็นคะแนนเสียงหลักของตน ส่วนประชาธิปัตย์ก็เกรงว่าภาคใต้ที่เป็นฐานเสียงหลักจะถูกภูมิใจไทยแย่งไปเช่นกัน

สำหรับบุคลากรทางการแพทย์นั้น กังวลว่า เยาวชนไทยจะใช้กัญชากันจนเกิดอันตรายต่อสุขภาพโดยเฉพาะสมองและระบบประสาทที่กัญชาเข้าไปก่อพิษภัย

แต่แม้จะมีการถอนร่าง พ.ร.บ.ควบคุมกัญชา กันชงออกไปแล้ว ทว่ากัญชาก็ยังคงพ้นสถานภาพยาเสพติด ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข 9 ก.พ. 2565 ปลดกัญชา กัญชงจากการเป็นยาเสพติดตั้งแต่ 9 มิถุนายนเป็นต้นมา

แม้จะมีข้อแก้ตัวว่าประกาศฉบับดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อการใช้กัญชาทางการแพทย์เท่านั้น ทว่าในทางปฏิบัติ ฝ่ายสนับสนุนกัญชาเสรีก็นำไปสร้างกระแสกัญชาฟีเวอร์เป็นกัญชาเสรี

เหตุจาก มีการอนุญาตให้ประชาชนสามารถปลูกได้บ้านละ 6 ต้น โดยการลงทะเบียนขออนุญาตปลูกกันทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งก็มีผู้ขออนุญาตปลูกกันนับล้านราย

แต่แท้จริงแล้ว มีการปลูกกันเสรีทั่วประเทศ เพราะไม่มีใครแยกแยะได้ว่ารายไหนขึ้นทะเบียนรับอนุญาตปลูก รายไหนปลูกกันเอง

ไม่ต่างจากสหรัฐฯที่ปลดล็อกกัญชาก่อนหน้านี้ มีการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกและผู้ขาย ผู้ซื้อ โดยมีข้อกำหนดคุณสมบัติของผู้ได้รับอนุญาตทุกฝ่าย

แต่กลับปรากฏว่า มีกัญชาที่ลักลอบปลูกหรือกัญชาเถื่อนขายกันในตลาดมืดมากกว่ากัญชาถูกกฎหมายเท่าตัว

ยิ่งกว่านั้น ผู้ซื้อผู้เสพที่ต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ที่อายุเกิน 18 ปี และซื้อได้ในปริมาณจำกัดนั้น

พวกที่ขาดคุณสมบัติผู้ซื้อผู้เสพ ก็มีตลาดมืดไว้รองรับ

เกิดปัญหามากมายตามมา ทั้งเกิดการเสพเกินขนาดจนหามส่งโรงพยาบาล ทั้งเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จากผู้เสพกัญชา

ตามหลักการนั้น ผู้เสพกัญชาไม่ควรขับรถภายในเวลา  6 ชั่วโมงหลังเสพ เพราะสาร THC ในกัญชาจะอยู่ในระบบร่างกายนานถึง 6 ชั่วโมงหลังเสพ

ที่ปวดหัวหนักก็คือ ผู้เสพกัญชาจะไม่แสดงอาการเมาเหมือนคนกินเหล้า ซ้ำยังตรวจพบยากกว่าการตรวจแอลกอฮอล์ที่ให้เป่าลมเข้าลูกโป่งหรือตรวจปัสสาวะก็พบได้

เหตุนี้ หลายรัฐจึงยกเลิกกัญชาเสรี คงไว้แต่ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น

จาก 35 รัฐ ขณะนี้เหลือแค่ 10 รัฐเท่านั้นที่ยังคงไว้ซึ่งกัญชาเสรี และน่าจะมีการยกเลิกกัญชาเสรีกันในอนาคตอีกหลายรัฐ

การเปิดกัญชาเสรีทำให้มีบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการผลิตสินค้าที่ใช้กัญชาเป็นส่วนผสม และมีการผลิตกัญชาเพื่อการค้า มีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นวอลสตรีทมากมาย

แต่ปรากฏว่า ผลประกอบการไม่ดี ขาดทุนกันเสียเป็นส่วนใหญ่ เหตุจากัญชาผี กัญชาเถื่อนเกลื่อนตลาด

เป็นอุทาหรณ์ให้บริษัทไทยที่ทำมาหากินกับกัญชาและหวังรายได้มหาศาลได้เก็บไปคิด

สำหรับด้านการแพทย์ มีการนำกัญชามาวิจัยในรูปของยารักษาหลายโรค โดยเฉพาะมะเร็ง

แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถยืนยันผลการรักษาได้ แม้จะได้ผลในการยับยั้งเซลล์มะเร็งในจานและหลอดทดลอง แต่เมื่อนำมาใช้กับสัตว์ทดลอง กลับไม่ได้ผล

อย่างไรก็ดี ในโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท การที่กัญชา มีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาท โดยสารในกัญชาและกัญชงออกฤทธิ์ที่ประสาทส่วนกลาง

ทำให้สามารถนำไปทำเป็นยารักษาอันเกิดจากระบบประสาทผิดปกติ เช่น โรคลมชัก  ลมบ้าหมู ซึมเศร้า ปวดปลายประสาท กล้ามเนื้อหดเกร็งอันเกิดจากปลอกประสาทเสื่อมแข็ง พาร์กินสัน ภาวะคลื่นไส้อาเจียนอันเป็นผลข้างเคียงจากการได้รับเคมีบำบัด ฯลฯ

แต่กระนั้น ความที่กัญชาออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท การใช้กัญชานานๆติดต่อกัน จะก่อเกิดการเสพติด เนื่องจากต้องเพิ่มขนาดการใช้ และใช้ต่อเนื่องเกิดอาการดื้อยา

ศัลยแพทย์พบว่า คนไข้ที่เสพกัญชาต่อเนื่องนานๆ เมื่อเข้ารับการผ่าตัด วิสัญญีแพทย์จะวางยาสลบ พบอาการดื้อยาสลบ ต้องเพิ่มขนาดยาถึง 20%จึงจะทำให้สลบได้

มีการเปรียบเทียบกัญชากับสุรา ผลออกมาว่า กัญชามีเวลาลดหรือสลายตัวในระบบร่างการลงครึ่งหนึ่ง (THC cut-off point ) ในระยะ  2-30 วัน  ปริมาณ 50 ng/ml (นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร)

ส่วนแอลกอฮอล์นั้น cut-off point  0.019 ng/.mg และตรวจวัดเป็น negative test ในระยะเวลา 2-5 ชั่วโมงเท่านั้น(กรมการขนส่งสหรัฐฯ - DOT)

ส่วนการเปรียบเทียบกับบุหรี่ กัญชาที่สูบแบบบุหรี่นั้นควันจะทำลายเยื่อบุผนังปอดมากกว่าควันบุหรี่ถึง 5 เท่า

แต่ถ้าสูบแบบผ่านน้ำคือบ้องกัญชาแบบบ้านเรา ควันจะทำลายปอดน้อยลง แต่ก็มากกว่าควันบุหรี่ 3.5 เท่า

เป็นการเปรียบเทียบกันในบางส่วนเท่านั้น ยังมีการค้นพบพิษภัยกัญชาอีกหลายด้าน

นี่ก็คือเหตุผลหลายรัฐยกเลิกกฎหมายกัญชาเสรี คงไว้แต่ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น

คงจะต้องศึกษาประสบการณ์กัญชาเสรีในสหรัฐฯ เพื่อมาประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ควบคุมกัญชา กัญชง ซึ่งแม้จะตกไป แต่เชื่อว่าหลังเลือกตั้งครั้งหน้า มีสภาชุดใหม่ ภูมิใจไทยน่าจะนำร่าง พ.ร.บ.นี้เข้าสภาฯอีก

ตอนหาเสียงเลือกตั้ง ก็คงจะใช้นโยบายกัญชาเสรีเป็นตัวเรียกคะแนนเสียงเหมือนครั้งที่แล้วอีก