หลายฝ่ายตื่นตัวเตรียมรับมือกับสังคมผู้สูงอายุ ในส่วนของรัฐบาล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาเพิ่มเงินสมทบจากภาครัฐให้สมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อเป็นเงินออมไว้ดูแลสมาชิก กอช. หลังวัยเกษียณ ให้มีเงินใช้จ่ายในแต่ละเดือนในอัตราที่เหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันอัตราที่ได้รับเงินหลังเกษียณถือว่าต่ำเกินไป ส่วนจะสมทบในอัตราเท่าใดนั้น คาดว่าจะชัดเจนภายในปีนี้ ซึ่งจะต้องมีการเสนอขอความเห็นชอบจาก ครม. อีกครั้ง นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการร่างกฎหมายบำนาญแห่งชาติ เพื่อเป็นหลักประกันในการใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุด้วย เนื่องจากประเทศไทย ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงต้องสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้กับชีวิตด้วย
อีกด้านหนึ่ง รศ.ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล หัวหน้าภาควิชาการธนาคารและการเงิน คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดทำ "ดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณ" (NRRI) เพื่อหาเครื่องมือวัดระดับความพร้อมหรือไม่พร้อมของคนในประเทศไทยหลังเกษียณ ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ทั้งในระดับประเทศและระดับบุคคล
ทั้งนี้ พบว่าตัวเลขความพร้อมด้านการเงินค่าเฉลี่ยของประเทศมีความพร้อมต่ำกว่า 40% ขณะที่ความพร้อมด้านสุขภาพมีความพร้อมในระดับที่สูงกว่ามิติด้านการเงิน ซึ่งการมีความพร้อมจากการมีความสุข ด้านสุขภาพสูงกว่าความพร้อมจากความสุขด้านการเงิน ดังนั้นต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะพอจึงเป็นอีกโจทย์หนึ่ง
โดยก่อนหน้านี้มีการสำรวจการใช้จ่ายของคนสูงวัย พบว่าจำนวนเงินที่จะเพียงพอที่จะอยู่รอดได้หลังเกษียณคือ 3 ล้านบาทต่อคน และต้องทยอยนำเงินมาใช้จ่ายต่อเดือนในระดับ 6,000-7,000 บาท แต่ปัจจุบันมีการใช้จ่ายกันที่ระดับ 10,000 บาทต่อเดือน หมายความว่ามีการใช้เงินมากกว่าที่มีอยู่
สำหรับอุปสรรคการออมหลังเกษียณที่ทำให้การเกษียณไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ประชาชนส่วนใหญ่มักจะบอกว่าอุปสรรคคือความเสี่ยงอื่นๆ เช่น การเข้ามาของโควิด ที่ทำให้คนออกจาก PVD จำนวนมาก แต่อยากบอกว่าแม้โควิดไปเชื้อโรคตัวใหม่ก็จะเข้ามา ต่อไปอุปสรรคคือความเสี่ยงจะมาเร็วและมาแรงขึ้น เช่น โควิด หรือสงคราม ทุกอย่างจะเข้ามาเรื่อย ๆ อย่าให้เรื่องเหล่านี้มากระทบวินัยการออม
อย่างไรก็ตาม ขอชักชวนแรงงานในระบบใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้สูงสุด ต้องรู้ว่าตัวเองสามารถลดหย่อนได้ 15% ไม่เกิน 500,000 บาท ดังนั้น สิ่งที่ใส่ใน PVD, สิ่งที่ใส่ไปซื้อ RMF สิ่งที่ไปซื้อประกันสุขภาพที่มีการออมเพื่อเกษียณนั้นสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ จึงอยากให้ทุกคนออมผ่านรูปแบบไหนก็ได้ ให้ได้สัดส่วน 15% ของรายได้
สำหรับแรงงานนอกระบบ รศ.ดร.พรอนงค์ แนะนำว่า ขอให้มีวินัยด้านการออม หากระบบที่มีอยู่ยังไม่เอื้อจะต้องขวนขวายด้วยตัวเอง เช่น การเข้าสู่ระบบประกันสังคมมาตรา 40 รวมถึงเข้าสู่การออมใน RMF เป็นต้น ฉะนั้นขอให้ปรับพฤติกรรมใหม่ คือ สร้างวินัยการออม โดยเฉพาะอาชีพอิสระไม่ควรลงทุนในสิ่งที่เสี่ยง ควรปรับสัดส่วนการออมและความสม่ำเสมอ จากที่เคยพบพฤติกรรมการออมคือออมจำนวนมากในครั้งเดียวแล้วหายไป 3 ปี หลังจากนั้นเมื่อเก็บเงินได้ใหม่จึงจะออมอีกครั้งหนึ่ง
นับเป็นข้อมูลที่เราๆท่านๆ ต้องเตรียมความพร้อม อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป จะได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข