พรรคเพื่อไทยวันนี้ยังยากที่จะปลุกกระแสให้พรรคตีตื้น ขึ้นมาให้อยู่ในแดนบวก อย่างได้น้ำได้เนื้อ แม้ในจังหวะที่ 3ป. เพลี้ยงพล้ำ ต้องอยู่ในความสงบ  เพราะจังหวะนี้การขยับเพื่อเปิดหน้าสู้กับ ฝ่ายค้าน ยังไม่ใช่โอกาสดี 


 เว้นแต่ว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยปม นายกฯ 8ปี ออกมาในทิศทางที่เป็น คุณ กับ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เมื่อถึงเวลานั้น จะเท่ากับว่า 3ป. มีลุ้นว่าจะพลิกเกมกลับมาเป็นฝ่าย รุก เอาคืนในทางการเมืองได้อย่างจะแจ้ง 


 แต่เมื่อหันกลับมาที่พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน  ที่เตรียมจัดกิจกรรม ปักหมุดอีเว้นท์การเมืองในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ กันที่ภาคเหนือ 
 เมื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย วางโปรแกรมพา อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จัดงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ประกาศความเป็นเจ้าของฐานเสียงทั้งในจังหวัดเชียงใหม่ และในภาคเหนือ 


 ทว่าในความเป็นจริงแล้วพรรคเพื่อไทย นาทีนี้กำลังเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะแม้ ขั้วอำนาจ ของ 3ป. กำลังเจอกับแรงกดดัน เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ยังติดล็อค ต้องรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ แต่จนถึงนาทีนี้ พรรคเพื่อไทยเอง ยังไม่สามารถเปิดตัว แม่ทัพคนใหม่ ที่มีน้ำหนักพอฟัดพอเหวี่ยงกับ ฝ่ายตรงข้าม ได้อย่างชัดเจน 
 การนำเสนออุ๊งอิ๊ง  ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นาทีนี้อาจไม่ใช่ คำตอบ สำหรับพรรคเพื่อไทย ที่จะทำให้ สมาชิกพรรค มั่นใจได้ว่าพรรคจะเดินหน้าไปถึงชัยชนะที่เรียกว่า แลนด์สไลด์ ได้ตามประกาศเอาไว้อย่างแท้จริง 


 ยิ่งการประกาศเปิดตัวของพรรคการเมืองหน้าใหม่ ไปจนถึง คู่แข่งคู่ปรับ ทั้งพรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย ที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร กันอย่างคึกคัก พบว่าล้วนแล้วแต่เป็น อดีตแกนนำ ที่เคยอยู่ในพรรคเพื่อไทย ในถิ่นอีสาน  ภาคกลาง แทบทั้งสิ้น

 
 ขณะที่พื้นที่ภาคเหนือ อาจเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายที่ พรรคเพื่อไทย และตระกูลชินวัตร จะต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นปราการสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย อาจไม่เหลือให้ได้ลุ้นอีก !