เสือตัวที่ 6

ความตึงเครียดจากการแบ่งฝ่ายของประเทศมหาอำนาจในโลกต้องร้อนระอุมากขึ้นเป็นลำดับ ตั้งแต่รัสเซียส่งกำลังกองทัพปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนซึ่งนักการทหารต่างเห็นพ้องกันว่าเกิดจากการยั่วยุของมหาอำนาจสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรนาโตที่เร่งเร้าในการต้อนรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ซึ่งรัสเซียถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติที่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างนั้นไม่ได้ ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียจึงเกิดขึ้นในเดือน ก.พ.65 โดยการตัดสินใจอย่างแน่วแน่เด็ดเดี่ยวของผู้นำรัสเซียอย่างปูตินที่ไม่ลังเลในการตัดสินใจแม้แต่น้อย แม้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของกองทัพรัสเซียที่กระทำต่อยูเครนจะยืดเยื้อยาวนานมาจนกระทั่งปลายปี 65 แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความแน่วแน่เด็ดเดี่ยวของผู้นำรัสเซียคนนี้หวั่นไหวแม้แต่น้อย ในขณะเดียวกันรัสเซียยังแสดงออกให้สหรัฐฯและชาติพันธมิตรยุโรปทั้งหลายเห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า รัสเซียเป็นประเทศมหาอำนาจที่ไม่มีฝ่ายตรงข้ามใดจะบั่นทอนความเข้มแข็งลงได้

การตอบโต้ของรัสเซียทั้งทางทหารและทางเศรษฐกิจการค้าที่กระทำต่อฝ่ายตรงข้ามกลับรุนแรงมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณจากความพยายามคว่ำบาตรต่อรัสเซียของปรปักษ์ของพวกเขา และการตอบโต้ของรัสเซียนั้นกำลังสร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสต่อฝ่ายตรงข้ามทั้งภาวะเงินเฟ้อ ราคาน้ำมันสูงขึ้น การครองชีพของประชาชนในชาติฝ่ายตรงข้ามที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนความขาดแคลนก๊าซธรรมชาติอันเป็นปัจจัยสำคัญในการต่อสู้กับภาวะหนาวเย็นของคนในยุโรปที่กำลังจะถาโถมเข้าใส่ในเร็วๆ นี้ ซึ่งบรรดาชาติในภูมิภาคยุโรปนั้นจำเป็นต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียที่เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาค นั่นแสดงให้เห็นว่า รัสเซียเป็นมหาอำนาจทั้งทางทหารและเศรษฐกิจที่ใหญ่โตเข้มแข็งเกินกว่าที่สหรัฐฯ และพันธมิตรจะบีบบังคับได้อีกต่อไป

ในขณะที่กลยุทธ์ของสหรัฐฯ ดังกล่าว บีบบังคับให้รัสเซียแบ่งฝ่ายเร่งสานสัมพันธ์กระชับแน่นความร่วมมืออย่างจริงจังและเข้มข้นมากขึ้นกับชาติพันธมิตรของตนทุกภูมิภาคในโลกไม่ว่าจะเป็นเกาหลีเหนือ อินเดีย อิหร่าน และจีน เป็นต้น ด้วยท่าทีที่สหรัฐฯ แสดงตนว่าเป็นปรปักษ์กับรัสเซียอย่างออกนอกหน้ามากขึ้นในทั่วทุกภูมิภาคของโลกที่เป็นพันธมิตรกับรัสเซีย ตั้งแต่การตอบโต้การรุกของรัสเซียต่อยูเครน ตามด้วยประธานสภาผู้แทนของสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวันอย่างเป็นทางการ และสมาชิกสภาอีกจำนวนหนึ่งที่ทยอยเดินทางมาเหยียบแผ่นดินไต้หวันหลังจากที่จีนยุติการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงรอบเกาะไต้หวันอันเสมือนการพยายามยั่วยุจีนซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัสเซียอย่างชัดเจน ด้วยความเปราะบางของสถานการณ์ความตึงเครียดที่จีนยึดถืออยู่ตลอดมาว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนตามนโยบายจีนเดียวมาตลอด

ตามด้วยการที่สหรัฐฯ ปฏิบัติการซ้อมรบครั้งใหญ่กับเกาหลีใต้ ในชื่ออัลชิ ฟรีดอม ชีลด์(Ulchi Freedom Shield) หรือยูเอฟเอส ระหว่างวันที่ 22 ส.ค.-1 ก.ย.ที่เป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ในรอบ4 ปี โดยมีทหารประจำการกว่า 28,500 นายในเกาหลีใต้ เพื่อเตรียมรับมือปกป้องเกาหลีใต้จากเพื่อนบ้านติดอาวุธนิวเคลียร์อย่างเกาหลีเหนือนอกจากนั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โดยกองทัพเรือสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ยังตอกย้ำการแบ่งฝ่ายโดยเข้าร่วมในการฝึกซ้อมนอกชายฝั่งฮาวาย เกี่ยวกับการเตือนภัยขีปนาวุธล่วงหน้า การค้นหาติดตามขีปนาวุธ ในระหว่างวันที่ 8-14 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยอ้างว่ามีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ 3 ฝ่าย ท่ามกลางความท้าทายจากเกาหลีเหนือทำให้จีนซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของเกาหลีเหนือ แสดงความกังวลต่อการขยายการฝึกซ้อมร่วมทางทหารดังกล่าว เพราะทำให้ความตึงเครียดในคราบสมุทรเกาหลีต้องเลวร้ายลง ซึ่งส่งผลให้เกาหลีเหนือตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธพิสัยไกล 2 ลูก อันเป็นปฏิกิริยาที่มีต่อสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ที่ถือว่าเป็นการท้าทายเกาหลีเหนือที่รู้กันอยู่ว่ามีความเปราะบางต่อสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลีมาโดยตลอด

ท่าทีดังกล่าวของสหรัฐฯ และพันธมิตรที่ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2565 จวบจนปัจจุบัน ได้ส่งผลให้ฝ่ายตรงข้ามของสหรัฐฯ อย่างรัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ และพันธมิตรอื่นๆ ได้ผนึกกำลังสานสัมพันธ์ระหว่างกันให้กระชับแน่นในทุกมิติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมิติการกระชับแน่นในฝ่ายของรัสเซียด้านเศรษฐกิจ การค้า และความมั่นคงทางทหาร ในขณะที่คู่ขัดแย้งทั้งสองมีการแบ่งฝ่ายเลือกข้างอย่างชัดเจนที่สุดหลังสงครามเย็นยุติลง ปฏิกิริยาล่าสุดของรัสเซีย โดยกลาโหมรัสเซียประกาศจะเริ่มการซ้อมรบครั้งใหญ่ระหว่าง 1-7 กันยายนนี้ โดยจะเป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อวอสตอก 2022(Vostok 2022)ทางตะวันออกของรัสเซีย และในหลายพื้นที่ทั้งในแถบตะวันออกไกลรวมทั้งทะเลญี่ปุ่น ร่วมกับทหารจากชาติพันธมิตร รวมทั้งจีน อินเดีย ลาว ตลอดจนมองโกเลีย นิการากัว และซีเรีย เข้าร่วมด้วย โดยจะมีทหารเข้าร่วมครั้งใหญ่มากกว่า 50,000 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์สงครามจำนวนมากอันเป็นการสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางทหารที่แนบแน่นระหว่างประเทศพันธมิตรในฝ่ายรัสเซียและจีน โดยกองทัพเรือรัสเซียและจีนจะร่วมฝึกในทะเลญี่ปุ่นเพื่อปกป้องการสื่อสารทางทะเล กิจกรรมทางเศรษฐกิจทางทะเล และสนับสนุนหน่วยรบภาคพื้นดินอีกด้วย

แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา รัสเซียและจีนต่างปฏิเสธความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรทางทหารขึ้นมาใหม่อย่างจริงจัง หากแต่ในระยะหลังนี้ ประธานาธิบดีปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้ย้ำเตือนว่า การจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรทางทหารระหว่างกันดังกล่าวนั้น มีโอกาสเกิดขึ้นจริงมากขึ้นโดยที่ผ่านมารัสเซียเองก็ได้แบ่งปันเทคโนโลยีระดับสูงทางการทหารกับจีนมาโดยตลอด ประกอบกับการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดของฝ่ายรัสเซียและจีนรวมทั้งพันธมิตรล่าสุดนี้ ได้สะท้อนให้ชาวโลกได้ประจักษ์ชัดว่า ขณะนี้โลกได้แบ่งฝ่ายในภาวะใกล้สงครามกันชัดเจนยิ่ง ซึ่งนั่นย่อมส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทุกประเทศในโลกโดยเฉพาะบรรดาประเทศเล็กๆ ทั้งหลายต่างต้องเตรียมพร้อมรับมือในภาวะแบ่งฝ่ายครั้งนี้ให้ดีที่สุด