แสงไทย เค้าภูไทย

วันนี้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีในฐานะรักษาการนายกฯ ทำให้มีงานเพิ่มกว่าที่เป็นรองนายกฯ กว่าเท่าตัว ด้วยสังขารที่ย่ำแย่ กว่าศาลจะตัดสินคดีตีความฐานะ พลเอกประยุทธ์เสร็จ กินเวลาสองเดือน จะอยู่ไหวหรือ ? เอาแค่นั่งหัวโต๊ะคณะกรรมการที่มากเฝือก็จะแย่แล้ว

หากศาลตีความไม่นับอายุการเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วง คสช.อยู่ในอำนาจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะสามารถกลับมาเป็นนายกฯได้เหมือนเดิม

แต่หากตีความว่า 8 ปีของความเป็นนายกรัฐมนตรี หมายรวมถึงช่วงที่ได้รับโปรดเกล้าฯเป็นนายกฯในรัฐบาล คสช.แล้ว

รองนายกฯประวิตร ก็จะต้องทำหน้าที่นายกฯรักษาการไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งนายกฯกันใหม่

ทำให้ต้องเป็นภาระหอบหิ้ว ประคับประคองของผู้ดูแล ไม่ว่าจะเคลื่อนย้ายสังขารไปไหน จะลุกจะนั่ง ทำให้ห่วงว่าจะทนไม่ไหว

หากตีความว่า ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ไม่รวมหน้าที่และงานอื่นๆของนายกรัฐมนตรีที่ต้องหยุดทำหน้าที่ตามศาลสั่งก็พอทำเนา

แต่ถ้าหมายรวมถึงการเป็นประธานกรรมการ ประธานบอร์ด ประธานอะไรต่อมิอะไรยุบยับกว่าครึ่งร้อยตำแหน่งว่าเป็นตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีโดยอัตโนมัติ

ใครมาเป็นนายกฯก็ต้องทำหน้าที่ตรงนี้

คงจะแย่  เพราะตำแหน่งประธานกรรมการโน่นนี่ที่บิ๊กตู่นั่งอยู่เฉพาะในรัฐบาลชุดนี้นั้น มีถึง 56 แห่ง

ตั้งแต่คณะที่  1 ประธานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไปยัน คณะที่  56 ประธานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ นับแต่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นมา

ยังไม่นับในรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่เมื่อรวมแล้วค่อนร้อย คือ 70 คณะ

เป็นซูเปอร์แมนจริงๆ เป็นได้สารพัดรู้ สารพัดงาน

ในสมัยที่ 2 ของการเป็นนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ แต่งตั้งรองนายกฯเพิ่ม รวมเป็น 6 คน

มอบหมายให้รองนายกฯ รับผิดชอบคณะกรรมการต่าง ๆรวม 27 คณะ

โดยพลเอกประวิตร นั่งหัวโต๊ะมากที่สุดคือ 7 คณะ นายสุพัฒนพงษ์  พันธ์มีเชาว์ นั่งน้อยสุด 2 คณะ

ความที่เคยเป็นข้าราชการประจำ เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ ก็นำระบบราชการเข้ามาใช้ กลายเป็นรัฐราชการ

ตั้งแต่ปีรัฐประหาร 2557 มาจนสิ้นยุค คสช.มีการตั้งคณะกรรมการสำหรับนายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธานถึง 70 คณะ

คือตัวเองไม่ต้องคิด มีคณะกรรมการเหล่านั้นคิดแทน ตัวเองได้แต่คอยพยักหน้า หรืออาจทักท้วงบ้าง แล้วก็สั่งการแบบที่เคยทำช่วงรับราชการเป็นทหาร

ยุครัฐบาลประยุทธ์ จึงอาจจะเรียกได้ว่า มีคณะกรรมการมากชุดที่สุดในประวัติศาสตร์

ยังดีที่ไม่ได้นำเอาบริษัทน้ำมันสามทหาร มาตั้งกันใหม่

เพราะหลังยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สำเร็จ นั่งทำเนียบรัฐบาลก้นยังไม่ทันร้อน

บิ๊กป้อมก็เปรยขึ้นมาว่า จะเอาบริษัทน้ำมันสามทหารกลับมาตั้งและดำเนินการอีกครั้ง หลังจากถูกแปรรูปไปเป็น ปตท.

ด้วยเหตุผลว่า บริษัทน้ำมันสามทหาร ในยุคนั้น ตั้งขึ้นมาเพื่อความมั่นคงทางด้านพลังงานแห่งชาติเนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจ ทั้งยังเป็นยุทธปัจจัยสำหรับกิจการทหารด้วย

พูดยังไม่ทันขาดคำ ฝ่ายบริหารปตท.ก็ปรับบอร์ดทันที มีนายพลเข้านั่งเพียบ

แสดงให้เห็นว่า ไม่จำเป็นต้องมีสามทหาร มีหลายๆทหารเข้าไปเป็นบอร์ด ปตท.มิดีกว่าแค่สามทหารหรือ ?

เรื่องจะตั้งบริษัทน้ำมันสามทหารก็เลยเงียบไป

หลังรัฐประหาร 2557 มีทหารและตำรวจเข้าไปนั่งในหน่วยงานสำคัญ ในรัฐวิสาหกิจและคณะกรรมการต่างๆกว่าร้อยแห่ง

ที่เห็นชัดๆคืออดีตผู้ว่าฯ กทม.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

ถือเป็นการตอบแทนที่ได้สนับสนุนการยึดอำนาจได้สำเร็จ

นี่เองที่เป็นสาเหตุให้บิ๊กตู่ต้องอยู่ต่อ

เพราะถ้าไปเมื่อไร พวกติดสอยห้อยตามทั้งหลายเป็นได้หลุดกันยกโขยง

คนใหม่มา เขาก็ต้องเอาคนของเขามานั่งแทน เป็นธรรมดาของการต่างตอบแทน