สถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ผ่านมรสุมลูกแล้วลูกเล่า เหมือนจะโงหัวขึ้นมาบ้างหลังจากเปิดประเทศเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จบเกือบจะเข้าวสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจกลับมาคึกคัก

สอดคล้องกับข้อมูลจากน.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจและการเงินเดือนมิถุนายน ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามภาคบริการที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องสอดคล้องกับเศรษฐกิจประเทศ รวมทั้งการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการฟื้นตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากรายจ่ายประจำเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกสินค้าปรับลดลงบ้างหลังจากที่เร่งไปในช่วงก่อนหน้า เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ขณะเดียวกันตลาดแรงงานในภาพรวมทยอยฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัด ขาดดุลน้อยลงตามดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลน้อยลง

ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจเปิดเผยว่า การที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 วงเงิน 2.1 หมื่นล้านบาท ให้สิทธิ์ประชาชน 26 ล้านคน คนละ 800 บาท เริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนถึง 31 ตุลาคมนั้น แม้จะเป็นวงเงินที่ไม่มากแต่จะเป็นวงเงินที่จะช่วยเพิ่มอำนาจซื้อให้กับประชาชน สามารถช่วยพยุงเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 3 ให้เติบโตขึ้นอีกร้อยละ 0.2-0.4 ทำให้มีแรงส่งต่อไปจนถึงไตรมาสที่ 4 ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวได้จากช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และภาคการท่องเที่ยวสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงไฮซีซั่น จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง         

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า  สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจากการพิจารณาของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น มีโอกาสที่จะปรับขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมแน่นอน ซึ่งจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่การมีโครงการคนละครึ่งจะเข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจในส่วนนี้ได้ ทำให้เศรษฐกิจยังคงเดินหน้าต่อไปไม่ปรับตัวลดลงอีกด้วย

กระนั้น หากเรามองจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยและความเห็นของประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ดูเหมือนเศรษฐกิจไทย จะยังพอมีความหวังว่าจะฟื้นตัวได้ไปต่อ