แม้จะเป็นเรื่องที่พูดเล่นๆในหมู่ของส.ส. แต่หากย้อนกลับไปถึงบทสัมภาษณ์ ของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับแผนการเตรียมตั้งพรรคการเมือง เพื่อรองรับกติกาในการคำนวณสูตรหาส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบหาร 500 ก็ดูเป็นกระบวนการคิดอย่างมีแบบแผนพอสมควร

“ไม่แตกแบงก์พัน พรรคเพื่อไทยไม่ได้กลัว เพราะมีหลายวิธีการ อาจมีอีกกลไกคือ มีพรรคการเมืองอีกพรรคที่มุ่งรณรงค์เฉพาะบัญชีรายชื่อ แบบไม่สนใจเขต เช่น ตั้งพรรคครอบครัวเพื่อไทยส่งบุคคลที่ต้องการใส่ในระบบบัญชีรายชื่อให้เต็ม วางกลไกรณรงค์หาเสียงเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่ออย่างเดียว แต่ให้มาเลือก ส.ส.เขตพรรคเพื่อไทย ขณะที่พรรคเพื่อไทยจะรณรงค์ให้เลือกเฉพาะ ส.ส.เขต เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน กลไกนี้อาจได้ผลที่อีกฝ่ายคิดไม่ถึง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์และการตอบรับของประชาชน ถ้าประชาชนบอกว่าดี อาจเป็นไปได้ ถ้าทำได้ก็น่าสนใจ แต่ภายในพรรคยังไม่ได้คุยถึงกลไกนี้อย่างเป็นทางการ เล่าให้ฟังแบบเปิดไต๋เผื่อเขากลับตัวทัน”

ซึ่งภายหลังนพ.ชลน่านได้แก้ต่างว่า "การตั้งพรรคใหม่เป็นเพียงวิธีคิด ยังมีอีกหลายวิธี เราอาจจะสู้ให้ได้เขตมากที่สุด จะลงทุนตั้งพรรคใหม่ทำไม อย่างมากสุดก็ได้ 40 คน หรือสู้ในนามพรรคเพื่อไทย เอาให้ได้ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อ ตั้งเป้าให้ได้คะแนนบัญชีรายชื่อ 15 ล้านเสียงขึ้นไป ซึ่งมีโอกาสอยู่แล้ว ส่วนการตั้งพรรคใหม่ยังตอบไม่ได้ ต้องประเมินจากพี่น้องประชาชน ว่าทางไหนเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด”

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คู่ขนานไปกับการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองในอีกฟากหนึ่ง นั่นคือพรรครวมไทยสร้างชาติ จากการเปิดเผยของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาระบุว่าตนเองและอีกหลายคนกำลังคุยเรื่องการทำการเมืองและการตั้งพรรคการเมือง ขณะนี้รอการตัดสินใจจากนายพีระพันธุ์ หากไปไหนก็จะไปด้วยกัน โดยระบุว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง

ขณะที่ นายพีระพันธุ์ ยังสงวนท่าที โดยเขาบอกว่ายังไม่ได้ตัดสินใจ จึงยังไม่อยากพูดไปก่อน และยังทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคไหนเลย รวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย

ทั้งนี้พรรครวมไทยสร้างชาติจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2565 ณ สโมสรราชพฤกษ์ ถ.วิภาวดีรังสิต ในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ ทำให้มีการจับตาว่านายพีระพันธุ์จะเข้าร่วมด้วยหรือไม่

แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ไม่ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเดินอย่างไร และพรรคครอบครัวเพื่อไทย หรือในชื่ออื่นจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่คาดการณ์กันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมาถึงนั้น การเมืองจะเป็นการแข่งกันเองในขั้วเดียวกัน แต่สุดท้ายก็จะมีการจับขั้วกันในขั้วเดิมหรือไม่ ต้องติดตาม