ความเคลื่อนไหวที่ไล่ล้อไปกับการขับเคี่ยว อย่างเข้มข้น ในศึกสภาฯจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตลอดห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือกระแสข่าวเรื่องของการปรับครม. ที่อาจมีขึ้นตามมา เมื่อการโหวตลงคะแนนไว้วางใจให้กับ นายกฯ กับอีก 10 รัฐมนตรี จบลง ! 

 จะด้วยใช้ คะแนนโหวต ที่รัฐมนตรี บางรายได้รับ มาเป็น เงื่อนไข หรือ ยกเอา เหตุอื่น มาอ้างก็สุดแท้แต่ อย่างน้อยที่สุด หลายคนคาดหวังว่าจะได้เป็น โอกาส กดดันจนนำไปสู่การปรับครม. เปลี่ยนตัว รัฐมนตรี ในบางกระทรวง 
 

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แรกเริ่มเดิมที ปักหมุดกันเอาไว้ที่ เก้าอี้ของ จุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  จนเกิดความเคลื่อนไหว ทั้ง แค้นเก่า ขยับเข้ากดดัน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค  แต่ทำไปทำมา กลับกลายเป็นว่า เมื่อผลโหวตปรากฏออกมา จุติ กลับได้คะแนนไว้วางใจ มากกว่า จุรินทร์ 

 เท่ากับว่า โอกาสที่จะเดินเกมใช้ คะแนนโหวต มาเขย่าเก้าอี้ รมว.พัฒนาสังคมฯ ของจุติคงทำได้ยาก เว้นแต่ว่า จะมีรายการ ตกลงกันนอกรอบ ยอมมีใคร ไฟเขียว เปิดทางให้ เปลี่ยนตัว เพื่อเวียนให้ คนใหม่ในพรรคได้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ดูเหมือนว่าเก้าอี้รัฐมนตรีตัวที่ร้อนระอุ ทะลุจุดเดือดมาตั้งแต่แรก นั่นคือเก้าอี้ มท.1 ของ บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย   โดยในรายนี้ทำท่าว่า กลุ่มก๊วน ในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้มาเล่นๆ แต่ เอาจริง 

 เพราะหากดูจากการเคลื่อนไหวของ กลุ่ม16ที่เปิดตัวว่าไม่พอใจ ตัวมท.1 ที่ห่างเหิน ไม่สนับสนุนงบประมาณ ให้กับส.ส. มาผนวกกับ มติโหวต ที่ออกมาชัดเจนว่า 6ส.ส. ในพรรคพลังประชารัฐ คือกลุ่มบ้านใหญ่ปากน้ำ ประกาศตัวชัดเจนด้วยการไม่โหวตให้กับบิ๊กป๊อก  เปิดหน้าว่าขอฝ่ามติพรรค ฝืนคำสั่ง บิ๊กป้อมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค 

 และหากย้อนกลับไป ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อเดือนก.ย. 2564 ที่ผ่านมา ก็เคยมีการเขย่า เก้าอี้มท. 1กันมาแล้ว แต่ครั้งนั้นเป็นฝีมือของ กลุ่มร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขณะยังอยู่กับพลังประชารัฐ ก่อนที่จะถูกปิดเกมในเวลาต่อมา 
 

การเคลื่อนไหวทั้งในพรรคพลังประชารัฐ ที่พุ่งเป้ามาที่เก้าอี้มท. 1 ของพล.อ.อนุพงษ์  หรือความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์เอง ที่พร้อมจะปะทุขึ้นมารอบใหม่ ล้วนแล้วต้องวัดใจและลุ้นว่า บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะเลือกใช้วิธีไหน !