วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2538 เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ “สมเด็จย่า”  ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินที่เป็นสตรี พระองค์ที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

เป็นผู้ทรงสร้างมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระอุตสาหวิริยะสูงในการทรงงาน เพื่อประโยชน์ของพสกนิกรชาวไทย ทั้งด้านการแพทย์ พยาบาล สาธารณสุข การศึกษา ทรงจัดตั้งหน่วยงานและมูลนิธิที่สำคัญ เช่น หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) มูลนิธิขาเทียม และทรงบริจาคพระราชทรัพย์สร้างโรงเนียน 185 โรงเรียน และทรงรับโครงการโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนไว้ในพระราชูปถัมภ์

“สยามรัฐ” ขออัญเชิญพระราชดำรัสของ “สมเด็จย่า” มาเผยแพร่เป็นข้อคิดให้แก่คุณผู้อ่านดังนี้

“คนดีของฉันรึ จะต้องเป็นคนดีที่ไม่พูดปด ไม่สอพลอ ไม่อิจฉาริษยา ไม่คดโกง และไม่มีความทะเยอทะยานอย่างบ้าๆแต่พยายามทำหน้าที่ของตนให้ดี ในขอบเขตของศีลธรรม”

จากหนังสือ “ดั่งสายธาร ศรีนครินทร์แห่งแผ่นดิน”

"...คนเราไม่ควรลืมตัว ไม่อวดดี ไม่ถือดีว่าตนเก่ง และให้รู้จักใช้ลาภยศสิ่งสมมุติที่มีอยู่ตามสถานะ จังหวะชีวิตในแต่ละช่วงช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์...."

จากหนังสือ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

“ต้นไม้นี่มันคล้ายๆ คน ต้นบานชื่นนี้ ฉันไม่ได้ปลูกด้วยเมล็ด แต่ไปซื้อต้นเล็กๆ ที่เขาเพาะแล้วมาปลูก แต่มันก็งามและแข็งแรงดี เพราะอะไรหรือ เพราะคนที่เขาขายนั้นเขารู้จักเลือกเมล็ดที่ดีและดินที่เขาใช้เพาะก็ดีด้วย นอกจากนั้น เขายังรู้วิธีว่าจะเพาะอย่างไร ซึ่งฉันไม่สามารถทำได้เช่นเขา เมื่อฉันเอามาปลูกฉันต้องดูแลใส่ปุ๋ยเสมอเพราะดินที่นี่ไม่ดี ต้องคอยรดน้ำพรวนดินบ่อยๆ ต้องเอาหญ้าและต้นไม้ที่ไม่ดีออก เด็ดดอกใบที่เสียๆ ทิ้ง คนเราก็เหมือนกัน ถ้ามีพันธุ์ดี เมื่อเป็นเด็กก็แข็งแรง ฉลาด เมื่อพ่อแม่คอยสั่งสอน เด็ดเอาของที่เสียออกและหาปุ๋ยที่ดีใส่อยู่เสมอ เด็กคนนั้นก็จะเป็นคนที่เจริญและดีเหมือนกับต้นและดอกบานชื่นเหล่านั้น”

จากหนังสือ ดั่งสายธาร ศรีนครินทร์แห่งแผ่นดิน