เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เวลา 16 นาฬิกา 20 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ไปยังค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ในการนี้ พระราชทานพระโอวาท ความสำคัญตอนหนึ่ง ที่ “สยามรัฐ” ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ความว่า “น่าชื่นชมอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่า คณะลูกเสือมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง ที่จะปฏิบัติงานให้บังเกิดผลตามอุดมการณ์ที่ตั้งไว้ นับแต่กิจการลูกเสือถือกำเนิดขึ้น เยาวชนลูกเสือผู้มีจิตอาสา ได้มีบทบาทอย่างสำคัญในการบำเพ็ญประโยชน์ในด้านต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นและสังคมส่วนรวมด้วยความเสียสละ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และความปรารถนาดีอย่างสุจริตจริงใจเสมอมา นับได้ว่ากิจการลูกเสือเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นโอกาส ในการสร้างสมคุณลักษณะประจำตน ให้เยาวชนเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ผู้จะสามารถสร้างความเจริญมั่นคงให้แก่ชาติบ้านเมืองได้ต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกันว่า กิจการลูกเสือไทยสามารถยังประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและประชาชนได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ดี สังคมทุกวันนี้ มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ลูกเสือจึงจำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาตนเอง ทั้งในด้านความรู้ความสามารถ ความคิดและวิจารณญาณ ตลอดจนทักษะความเชี่ยวชาญต่างๆ ให้เพิ่มพูนก้าวหน้าทันโลกทันเหตุการณ์อยู่เสมอ เชื่อได้ว่า หากลูกเสือทุกคนมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติให้ได้ดังนี้ รวมทั้งประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัยและธรรมเนียมของลูกเสืออย่างแน่วแน่แล้ว แต่ละคนย่อมสร้างสรรค์ความเจริญมั่นคงให้แก่ตน แก่สังคมและแก่ประเทศชาติได้ สมกับอุดมการณ์ของลูกเสืออย่างแน่นอน ธงลูกเสือ อันเป็นเครื่องหมายแทนชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งมอบไว้แก่ท่านในวันนี้ ขอให้ทุกท่านถือเอาเป็นเครื่องเตือนใจ ให้ยึดมั่นและตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนดังที่กล่าว คือเป็นผู้สร้างสรรค์และรักษาความวัฒนาผาสุกให้แก่ชาติบ้านเมืองของเราสืบไป”
สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า สำหรับการดำเนินงานกิจการลูกเสือ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้ดำเนินงานให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติลูกเสือ พุทธศักราช 2551 ข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติ นโยบายของคณะลูกเสือแห่งชาติ นโยบายของรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการทุกประการ เพื่อปลูกฝัง ฝึกฝนอบรมและพัฒนาเยาวชนของชาติให้มีคุณภาพ ยึดมั่นในอุดมการณ์ของลูกเสือ ให้มีความรักความศรัทธาในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมทั้งรู้จักบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อช่วยเหลือชุมชนและสังคม อันเป็นคุณสมบัติพื้นฐาน ที่สำคัญในการส่งเสริมให้เยาวชนไทยเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของชาติต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานหลักสูตร และตราสัญลักษณ์ลูกเสือจิตอาสาพระราชทานแก่คณะลูกเสือแห่งชาติ ซึ่งสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานลูกเสือจังหวัด 77 จังหวัด ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการฝึกอบรมบุคลากรทางการลูกเสือ และการฝึกอบรมลูกเสือ โดยมีผู้บังคับบัญชาลูกเสือและบุคลากรทางการลูกเสือผ่านการอบรมลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน จำนวน 10,993 คน ลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน จำนวน 1 แสน 8 หมื่นคน มีสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ 4,802 แห่ง ซึ่งมีโครงการลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน ที่ออกบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมหลังจากอบรมแล้ว 14,400 โครงการทั่วประเทศ