นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลเล่าเรื่อง กับทีมนารีสโมสร ถึงการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ประเทศไทยได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศ ซึ่งมาตรการครั้งนี้จะมีผลทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศ โดยไม่ต้องกรอกข้อมูล Thailand pass เพียงแค่แสดงผลการฉีดวัคซีน ซึ่งถือว่ากลับไปใช้มาตรการเดิมเหมือนก่อนจะเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่หากผู้ใดที่ฉีดวัคซีนยังไม่ครบตามเกณฑ์ ก็สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ เพียงแต่ต้องแสดงผลการตรวจ RT PCR หรือ ATK เป็นลบ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางได้ ซึ่งการเปิดประเทศเต็มรูปแบบครั้งนี้จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจของไทยเพิ่มขึ้นด้วย
โดยรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า แม้ประเทศไทยจะเปิดประเทศเต็มรูปแบบแล้ว แต่มาตรการด้านความปลอดภัยยังเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยผู้ประกอบการและประชาชนทุกคนต้องปฎิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด รวมถึงเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น
ทั้งนี้ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ระบว่า วันแรกของการยกเลิกระบบ Thailand Pass หลังรัฐบาลประกาศอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษา พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย 41,823 คน
ขณะที่ศูนย์วิจัยกรุงศรี ระบุว่า ภาคท่องเที่ยวและส่งออกยังเป็นปัจจัยหนุนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยมูลค่าการส่งออกในเดือนพฤษภาคมขยายตัวดีต่อเนื่องที่ 10.5% YoY จาก 9.9% เดือนก่อน และดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 6.7% ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยในเดือนพฤษภาคมมีทั้งสิ้น 5.21 แสนคน เพิ่มขึ้นจาก 2.93 แสนคนในเดือนก่อน โดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยสูงสุด ได้แก่ อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ สหรัฐ และอังกฤษ สำหรับในช่วง 5 เดือนแรกของปี (ม.ค.พ.ค.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 1.31 ล้านคน
ปัจจัยบวกจากทางการทยอยผ่อนคลายข้อจำกัดสำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่มีการยกเลิกระบบ Test & Go แก่ผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนกว่า 70%
การยกเลิก Thailand Pass คาดว่าจะยิ่งช่วยหนุนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าxประเทศไทยมากขึ้น จากค่าเฉลี่ยในช่วงต้นเดือนมิถุนายนประมาณวันละ 2-2.5 หมื่นคน วิจัยกรุงศรีได้ปรับเพิ่มคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้มีโอกาสที่จะแตะระดับ 8 ล้านคน (จากเดิมคาด 5.5 ล้านคน)
จากข้อมูลและการคาดการณ์ข้างต้น เราเชื่อว่า ประเทศไทยจะสามารถผ่านห้วงเวลาวิกฤติอันเลวร้ายด้านเศรษฐกิจไปได้ เมื่อคเรื่องยนต์ท่องเที่ยวติด และเดินหน้าต่อไป โดยที่ต้องไม่ปล่อยให้โควิดกลับมาเป็นเงื่อนไข หรือแม้แต่สถานการณ์ใดๆที่จะทำให้เครื่องยนต์สะดุด เราจะผ่านไปด้วยกัน