การไปปรากฏตัวของ สุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันจันทร์ที่ 20 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา พร้อมให้แบไต๋ตรงไปตรงมาว่ามาเพื่อขอเก้าอี้ ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งใด ตำแหน่งหนึ่ง กับ บิ๊กป้อมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
สุรทิน บอกกับสื่อไม่มีกั๊ก ว่าเขาได้ต่อสายกับ พล.อ.ประวิตร เรียบร้อยแล้ว ล่าสุด พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะแกนนำกลุ่ม 16 ยืนยันว่า สิ่งที่สุรทิน ไปร้องขอต่อพล.อ.ประวิตร นั้นไม่เกี่ยวกับกลุ่ม 16 แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของสุรทิน เอง แม้เขาจะเป็นสมาชิกในกลุ่มก็ตาม
ผมเข้าใจว่าการขอตำแหน่งของนายสุรทินนั้นทำได้ในนามของพรรคการเมืองที่นายสุรทินสังกัดอยู่ และทางทำเนียบเปิดตำแหน่งให้พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ขอแล้วจะได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะพิจารณา ผมยืนยันว่าการตั้งกลุ่ม 16 ขึ้นมาไม่ใช่ต่อรอง หรือแสวงหาประโยชน์ให้กับสมาชิกในกลุ่ม พิเชษฐ ระบุกับสื่อ
การเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าว ไม่มีอะไรเกินไปจากความคาดหมาย หรือผิดแผกไปจากมิติการเมืองที่เคยเป็นมา เพราะหากสุรทิน ไม่ ขยับ เปิดเกมกดดัน ทั้ง ผู้จัดการรัฐบาล อย่างบิ๊กป้อม และ ผู้นำรัฐบาล อย่าง บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในห้วงเวลาก่อนระเบิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ+10 รัฐมนตรี กันเสียตั้งแต่ตอนนี้ โอกาส คงหลุดลอยไป อย่างช่วยไม่ได้
แต่ถึงกระนั้นใช่ว่าการเคลื่อนไหวขอสุรทิน พรรคเล็ก ที่มีเสียงเดียว จะไม่มีความหมาย เพราะแม้ที่สุดแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ยอม เซย์เยส ให้เก้าอี้ตัวใด ตัวหนึ่ง หรือ พล.อ.ประวิตร เอง ไม่สนองตอบต่อสิ่งที่สุรทิน ขอผ่านสื่อ ก็ตาม ทว่าลึกไปกว่านั้นอย่าลืมว่า สุรทิน ย่อมใกล้ชิดกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งพิเชษฐ เองก็ประเมินได้เช่นกันว่า ระหว่างเขากับร.อ.ธรรมนัส ใครสามารถ ต่อสาย ถึงพล.อ.ประวิตร ได้ง่ายดายกว่ากัน
ดังนั้น การเคลื่อนไหวของสุรทิน จึงเป็นแค่ ฉากหน้า ฉากหนึ่ง เท่านั้น เพราะแท้จริงแล้ว เป้าหมาย ปรับครม. อันเป็น ความหวังของทั้ง พรรคร่วมรัฐบาล ไปจนถึง ฝ่ายค้านในรัฐบาล อย่างกลุ่ม 16 ที่รอฟังสัญญาณทางการเมืองจากร.อ.ธรรมนัส ยังคงมีอยู่
ลำพังการได้เก้าอี้ในคณะกรรมาธิการฯ พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2566 ที่ผ่านมานั้นเป็นแค่ น้ำจิ้ม แม้จากนี้จะเหลือเวลาในอายุรัฐบาลอีกไม่กี่เดือนแต่ทุกคน ทุกขั้วก็ยังมีความหวัง แต่คำตอบ สุดท้ายยังอยู่ที่ บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่ เหมือนเดิม !