ชัยชนะ ของฝ่ายรัฐบาลจากศึกงบประมาณฯ 2566 ต้องถือว่า ไม่ใช่ชัยชนะที่ปกติธรรมดา เพราะเสียงโหวตที่มากเกินจากการความคาดหมาย พุ่งไปถึง 278 เสียง ต่อ 194 นั้นนอกจากจะเป็นการ การันตี ผลงานจาก มือประสาน สิบทิศ จากทั้งพรรคพลังประชารัฐและ พรรคร่วมรัฐบาล ด้วยกันแล้ว
อีกด้านหนึ่ง ยังเป็นตัวเลขที่ โชว์ให้เห็นถึง ความอ่อนแอ จาก พรรคฝ่ายค้าน พรรคหลักๆ ทั้ง เพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล ว่ายังแก้เกมปัญหา งูเห่า ส.ส.ฝากเลี้ยง จากฝ่ายรัฐบาลไม่ตก ! แต่นาทีนี้ วันนี้ เมื่อพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลยังอยู่ในสถานะ ฝ่ายค้าน การทำหน้าที่และการวางบทบาท จึงกลายเป็นไฟทว์บังคับที่ต้องเดินหน้าไปให้สุดทาง โดยมีสถานีสุดท้ายอยู่ที่ ศึกซักฟอก !
สุทิน คลังแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย และในฐานะประธานคณะกรรมการประสานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี อย่างแน่นอนในวันที่ 15 มิ.ย.65 นี้
ส่วนรัฐมนตรีที่ตั้งเป้าเอาไว้ 5-6 รายจะเป็น ใคร บ้างยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ที่ชัดแจ้งคือการชำแหละ บิ๊กตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะต้องติดโผอันดับหนึ่ง และในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ ฝ่ายค้านจะแถลงรายละเอียดทั้งหมด
งานของพรรคฝ่ายค้าน ในศึกซักฟอก กำลังเจอกับโจทย์ที่ยากไปแล้วโดยปริยาย ยิ่งเมื่อการฝากความหวังจะใช้กลยุทธ์ยืมมือ คนกันเอง ในพรรคพลังประชารัฐ ในปีกรัฐบาล ซักฟอกรัฐมนตรีจากโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี แต่เมื่อ พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ออกมาแบไต๋ แล้วว่าจะไม่ร่วมซักฟอกรัฐบาล เพราะนายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ได้มีการตรวจสอบโครงงการที่ร้องเรียนมาก่อนหน้านี้
เท่ากับว่า แผนเดิมที่ปูทางเอาไว้ ใช้ไม่ได้ผลแล้ว อีกทั้งพรรคร่วมฝ่ายค้านเอง ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเอง ยังไม่สามารถ ถล่มรัฐบาล เข้าเป้า จากศึกพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ฯ 2566 ที่ผ่านมา !
แต่ที่น่าหวั่นไหวตามมาในช็อตต่อไป ยังกลายเป็นว่า เวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาจกลายเป็นเวทีที่เปิดทางให้ รัฐบาล ใช้โปรโมท ผลงาน ไปโดยปริยาย !