ปัจจุบัน “ฝีดาษวานร” หรือ “ฝีดาษลิง” เข้ายึดครองพื้นที่การแพร่ระบาดใน 20 ประเทศทั่วโลก ทั้งในประเทศแถบแอฟริกา ยุโรป อเมริกา และ ออสเตรเลีย

 

ทั้งนี้ โรคฝีดาษลิง เป็นอีกโรคที่สร้างความกังวลต่อสังคมไทย  เพราะมีเริ่มมีการแพร่กระจายเชื้อในหลายพื้นที่เพิ่มมากขึ้น และสามารถแพร่ได้จากสัตว์สู่คนและจากคนสู่คน การติดเชื้อจากการคัดหลั่ง โดยเฉพาะประเทศไทยเพิ่งเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

 

ทั้งนี้ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับเรื่อง "โรคฝีดาษวานร" ระบุว่า “ฝีดาษวานร 2022 ความยุ่งยากในการควบคุมโรค

 

ฝีดาษวานรที่ระบาดในปีนี้ ในยุโรปและอเมริกามีผู้ป่วยร่วม 500 ราย ส่วนใหญ่เพศชายถึง 98% และอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ อายุ 20-50 ปี ความยุ่งยากในการควบคุมโรค คือ...

 

1.อาการของโรคไม่ได้รุนแรงแบบไข้ทรพิษ ยังไม่มีใครเสียชีวิตเลย เมื่อมีอาการน้อยบางรายก็ไม่ได้รับการวินิจฉัย

 

2.ตุ่มที่ขึ้นก็ไม่ได้มาก 30% เกิดในที่ลับ บริเวณอวัยวะเพศ และถ้าไม่มีอาการมาก หรือตุ่มขึ้นน้อยก็จะไม่ได้พบแพทย์

 

3.โรคนี้ติดต่อเกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์ เพราะมีการสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด

 

4.ไม่มีหลักฐานในการติดต่อจากสัตว์ หรือเดินทางมาจากแอฟริกา เป็นการติดต่อระหว่างคนสู่คน

 

5.ถ้าเชื้อฝีดาษวานรที่ระบาดอยู่ขณะนี้เข้าไปติดยังสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสัตว์ฟันแทะ ในตระกูลหนู กระต่าย กระรอก สัตว์เหล่านี้จะมีอาการน้อยมาก และเป็นพาหะที่จะกระจายโรคได้ จะยากต่อการควบคุมขึ้นอีก นำไปสู่การเกิดโรคประจำถิ่นขณะนี้โรคประจำถิ่นอยู่แอฟริกา มีความกังวลว่าถ้าติดในสัตว์เลี้ยงที่กำลังระบาดอยู่นี้ ก็อาจประจำถิ่นอยู่ยุโรปต่อไป”

 

ความเข้าใจ การรู้วิธีป้องกันและรักษาเบื้องต้น ที่สำคัญคือการสกัดข่าวปลอมเกี่ยวกับฝีดาษลิง จึงน่าจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน จากความวิตกกังวลที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย