แสงไทย เค้าภูไทย คะแนนเสียงที่เลือกผู้ว่าฯ กทม.และส.ก.สะท้อนหลายด้าน ทั้งความนิยมในตัวผู้สมัคร พรรค รัฐบาล คตินิยม ระบอบการเมือง ความเชื่อ ความไม่พอใจพรรคร่วมรัฐบาล ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ด้วยคะแนนเสียง 1,386,215 มากที่สุดในการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ที่ผ่านมา มากกว่าอันดับสองจากประชาธิปัตย์ 5.5 เท่าตัว คะแนนพรรคมีส่วนช่วยไหม ? แม้ชัชชาติ ประกาศว่าลงอิสระ แต่การที่เคยอยู่ไทยรักไทยและร่วมเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล ก็ทำให้เชื่อว่ามีความผูกพันกันอยู่ ในการสอบถามผู้ไปหย่อนบัตรเลือกตั้ง ส่วนใหญ่ บอกกาควบทั้ง เบอร์ส.ก.เพื่อไทยและบัตรเลือกผู้ว่าฯชัชชาติ พรรคเพื่อไทยส่งสมาชิกพรรคลงทุกเขตและได้จำนวน ส.ก.เข้ามามากที่สุด คือ 20 ใน 48 เขต เป็นอันดับหนึ่งคู่มากับชัชชาติ รองลงมา ก้าวไกล 14 เขต ปชป.9 พลังประชารัฐ 2 ไทยสร้างไทย (แยกออกมาจากเพื่อไทย) 2 มองตัวเลขนี้ แล้วจะเห็นว่า พรรคฝ่ายค้านได้คะแนนเสียงเลือก ส.ก.มากกว่าฝ่ายรัฐบาลในอัตรา 36-11 แสดงว่า คนกรุงเทพฯนิยมชมชอบฝ่ายค้านมากกว่าฝ่ายรัฐบาล และอาจหมายรวมถึงคนต่างจังหวัดทั้งประเทศที่มักจะมองคนกรุงเทพฯเป็นแบบอย่างด้วย ปชป.เคยครองใจคนกรุงครั้งเป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่พอวันนี้เป็นรัฐบาล คนกรุงเมินได้ส.ก.แค่ 9 คน เช่นเดียวกันกับ พปชร.ที่เข้ามาได้แค่ 2 คน ผลการเลือกตั้งสภากทม.นี้ สะท้อนถึงความชื่นชอบในรัฐบาลโดยตรง การที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยออกมารณรงค์หาเสียงช่วยลูกพรรคด้วยสโลแกน Landslide คือการชนะด้วยคะแนนเสียงเทเข้ามาราวแผ่นดินถล่มทลาย ก็ส่งผลมายังคะแนนเสียงของชัชชาติด้วย เมื่อผลนับคะแนนเสียงออกมา ทั้งสื่อมวลชน ทั้งสื่อโซเชียลพากันใช้คำเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า แลนด์สไลด์ คำเดียวกัน แต่แม้จะมองว่าคะแนนพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงหนุนส่ง ทว่าคุณสมบัติส่วนตัวของชัชชาติเองก็เป็นแรงส่งด้วย ทั้งยังส่งไปถึงผู้สมัครส.ก.เพื่อไทยด้วย เพราะมองกันว่า ในสภากทม.ผู้ว่าฯจะต้องมีสก.สนับสนุนการบริหารด้วย คะแนนเสียงที่ให้ผู้สมัครก้าวไกล ชัชชาติและเพื่อไทย ทำให้เห็นว่า ประชาชนต้องการคนรุ่นใหม่ เข้ามาทำงานการเมือง คนรุ่นใหม่ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงอายุ แต่หมายถึงคนมีความรู้ มีความคิดทันโลกยุคใหม่ มีวิสัยทัศน์ มุมมอง เป็นหัวก้าวหน้า อีกด้านหนึ่งซึ่งตรงกันข้าม คือคนได้คะแนนเสียงส่วนปลาย ได้แก่น.ส.รสนา โตสิตระกูล นั้น ความเป็น ส.ว.ทำให้คะแนนที่สมควรได้หดหาย เธอผิดพลาดที่นำภูมิหลังความเป็น ส.ว.มาเอ่ยอ้าง ว่าครั้งเมื่อมีการเลือกตั้ง ส.ว.นั้น เธอได้รับคะแนนเสียงสูงสุด ครั้งนี้เธอลืมไปว่า เธอได้เป็น ส.ว.เพราะคสช.เลือกเข้ามา ไม่ใช่ประชาชนเลือกเข้ามาเหมือนครั้งก่อน ซ้ำร้ายกว่านั้น เมื่อมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง 2560 ส.ว.ทั้งหมดพากันเทเสียงเลือก พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา อดีตหัวหน้า คสช.เป็นนายกฯ คนที่เกลียดการสืบทอดอำนาจเผด็จการ คสช.ก็เลยพลอยไม่ชอบรสนาไปด้วย แม้ว่าช่วงท้ายของการรณรงค์หาเสียง เธอจะดูมาแรงด้วยแรงส่งจาก พลตรีจำลอง ศรีเมือง และบรรดาอดีตแกนนำคนเสื้อเหลือง แต่เมื่อมองมุมกลับ คนที่ออกมาสนับสนุนเธอเหล่านั้น ล้วนกลายเป็นสินค้าหมดอายุ คือหมดยุคของพวกเขาแล้ว ออกมาก็กลายเป็นคนหลงยุค เป็นวัตถุโบราณที่เด็กรุ่นใหม่ไม่ให้ราคา ไม่ให้คุณค่า ยิ่งรสนาเอาตัวไปเปรียบกับคุณชัชชาติว่า “ไม่เลือกเรา ชัชชาติมาแน่” ก็ทำให้คนที่นิยมชัชชาติกลัวชัชชาติจะแพ้ แห่กันออกมาเลือกจนเกิดแลนด์สไลด์ ต้องไม่ลืมว่า ชัชชาตินั้นได้เปรียบจากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องมา 2 ปีแล้ว ภาพของเขาจึงอยู่ในความทรงจำของคนกรุงเทพฯอย่างแนบแน่น ต่างจากคนอื่นๆที่ออกมาเปิดตัวเอาก่อนมีประกาศวันเลือกตั้งไม่กี่สัปดาห์ ยิ่งกว่านั้น ในยุคที่สื่อดิจิทัล ครองใจคนรุ่นใหม่ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมถดถอย กระแสความต้องการสิ่งใหม่ นวัตกรรมใหม่ ความคิดริเริ่มใหม่ ชัชชาติสามารถตอบสนองได้ในส่วนนี้ เพราะเป็นคนมีความรู้สูง โดยเฉพาะในด้านวิศวกรรมที่ยามนี้กรุงเทพฯต้องการคนมีความรู้ทางนี้มาแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วม แผ่นดินกรุงเทพฯทรุดตัว เข้ามาเป็นผู้ว่าในช่วงเวลาปัญหากำลังเกิดขึ้นพอดี