บรรยากาศการเลือกตั้งผู้นำท้องถิ่น ปลุกเร้าให้มีการโหมกระแสเลือกข้างทางการเมืองของพวกสุดโต่งเกิดขึ้นอีกครั้ง มีฝั่งซ้ายและขวาออกมาอย่างชัดเจน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่ากระบวนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่เคบือบแฝงไปด้วยการปลุกปั่นยุยงให้เกิดความคิดความเชื่อกันใด เพื่อชิงกระแสคนรุ่นใหม่ เราๆ ท่านๆ ก็ควรพิจารณาว่าไม่ควรจะถือเอาแต่สิทธิเสรีภาพความเชื่อของตนเองไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น หรืออ้างสิทธิเสรีภาพของความเชื่อนั้นไปบ่อนเซาะทำลายผู้อื่นด้วยมองเพียงกระพี้ ไม่ได้มองที่แก่นหรือมองโดยกว้างและโดยรอบ จึงขอย้อนหวนทวนความ นำบทบรรณาธิการสยามรัฐเรื่อง ห่วงอนาคตลูกหลานไทยบ้าง เผยแพร่เมื่อวันที่18 มิถุนายน2555 มาเผยแพร่อีกครั้งเผื่อเป็นข้อคิดให้กับหลายๆส่วนในสังคมไทยความว่า “ ...ความเชื่อทางการเมืองในสังคมไทย เข้าใกล้ลักษณะ ลัทธิย่อย(cults) เข้าไปทุกที แม้จะมีการชูความคิด สร้างประชาธิปไตยแท้จริงบ้าง ป้องกันรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์บ้าง แต่การปฏิบัติของมวลชนที่ถูกสร้างขึ้นมานั้นเข้าใกล้ลักษณะ ผีบุญ เข้าไปทุกที การเมืองไม่มั่นคง จิตสำนึกทางสังคมไม่มั่นคง นี่คือความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง พร้อมๆ กันนั้น ยังมีปรากฏการณ์ทางสังคมที่น่าห่วงมากอีกหลายๆด้าน นั่นคือคนไทยมีจิตสำนึกคอร์รัปชั่นมากขึ้นโดยปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กๆ เลย และคนไทยมีจิตสำนึกโหดร้ายชอบแบ่งพวกฆ่ากันตั้งแต่เด็ก ดังปรากฏการณ์มีนักเรียนชอบฆ่าคนเกิดขึ้นเสมอมา วันนี้เราขอกล่าวถึงเรื่อง จิตสำนึกคอร์รัปชั่นก่อนการจ่ายเงินเพื่อดันลูกหลานเข้าไปเรียนในโรงเรียนชื่อดังคือตัวอย่างที่ผู้ใหญ่ยินดี จ่ายเงิน-รับเงิน เพราะคิดว่าเป็นการสร้างอนาคตที่ดีให้ลูกหลาน ทุจริตในการสอบแข่งขันเป็นข้าราชการเกิดขึ้นทั่วไป แม้กระทั่งในการสอบเป็นข้าราชการระดับล่างที่เงินเดือนไม่มากเลย ก็ยังยอมจ่ายเงินกันเป็นหมื่นเป็นแสน เพราะคิดว่าเป็นการสร้างอนาคตที่ดีให้ลูกหลาน หรือให้ตนเอง การใช้เงินซื้อตำแหน่งราชการระดับสูง เช่นที่กล่าวขวัญกันในวงการตำรวจนั้น ต้องใช้เงินจำนวนมากทีเดียว แต่ก็มียินดีจ่ายเพราะคิดว่าเมื่อได้ตำแหน่งมาแล้วสามารถหากำไรได้ คนไทยส่วนหนึ่งยินดีโกง เพื่ออนาคตของตนเอง และ/หรือเพื่ออนาคตของลูกหลาน ก็เพราะเชื่อว่า คนในสังคมไทยจะได้ดีเพราะโกง ! ผลการสำรวจโดยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ยืนยันว่าคนไทยผู้กรอกแบบสำรวจ ยอมรับรัฐบาลที่คอร์รัปชั่น ถ้าตนเอง ได้รับประโยชน์ด้วย เป็นอัตราส่วนถึง 63.4% หลายคนยังไม่เชื่อว่า คนไทยเกินครึ่งยอมรับการคอร์รัปชั่น ถ้าหากคำถามในโพลล์มีเพียงว่า ยอมรับการคอร์รัปชั่นหรือไม่? เราคิดว่าเกิน 90% จะตอบว่าไม่ยอมรับ แต่เมื่อคำถามถามว่า ยอมรับการคอร์รัปชั่นที่ตนเองได้รับประโยชน์หรือไม่? พบว่าคนไทยเกินครึ่งยอมรับ ทุกคนเกลียดการที่คนอื่นคอร์รัปชั่น แต่ถ้าตนเองได้รับประโยชน์ด้วยก็ยอมรับได้ การเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างนามธรรม ไม่เน้นเรียกร้องเรื่องธรรมาภิบาล ต่อต้านคอร์รัปชั่นอย่างเอาจริงเอาจังไม่อาจสร้างสังคมอนาคตให้งดงามได้ ทั่วสังคมมีเสียงเรียกร้องให้นักการเมืองปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม มีความโปร่งใส รักษาธรรมาภิบาล แต่การเรียกร้องเฉพาะนักการเมืองเท่านั้นคงไม่อาจสร้างสังคมที่ดีงามได้ จะต้องเปลี่ยนจิตสำนึกของพลเมืองทั้งหมดให้ได้ รวมทั้งนักการเมือง, เจ้าหน้าที่รัฐ, นายทุนผู้ประกอบการ และพลเมืองทุกอาชีพ จะต้องลดอัตราส่วนคนไทยที่ยอมรับให้รัฐบาลคอร์รัปชั่นให้ลดเหลือน้อยที่สุด สังคมอนาคตจึงจะดีงาม...”