ดูเหมือนว่า ปริญญ์เอฟเฟกซ์ กำลังทำให้ พรรคประชาธิปัตย์ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากพอดู เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้ ทุกสายตาของผู้คนในสังคมพากันหันมาจับจ้องความเป็นไป ภายในพรรคเท่านั้น แต่ในเวลาเดียวกันยังถูกนำไปใช้ขยายแผล หวังกระทบชิ่งไปถึง สนามกทม. ทำให้ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรค ต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น เมื่อปัญหาของ ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถูกแจ้งความในข้อหาทำอนาจารและข่มขืนผู้อื่น กำลังเดินเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
เมื่อปัญหา ที่ระดับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีที่มีความล่อแหลม เปราะบาง และช็อค ความรู้สึกของผู้คนในสังคมเช่นนี้ ย่อมทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคตามมา และยิ่งเมื่อเกิดแรงกระเพื่อมก๊อกที่สอง เมื่อมีแชทไลน์จากการตอบโต้กันเองภายในพรรค มีการระบุพาดพิงกันถึงเรื่องชู้สาวยิ่งทำให้สถานการณ์ของพรรค ไม่ต่างไปจากถูกต้อนให้มุมโดยปริยาย
ภารกิจของพรรคประชาธิปัตย์ ในวันนี้ ยังไม่หยุดลงแค่สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ซึ่งถือเป็นสนามการเมืองที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนี่คือการเช็คกระแสคนกรุงเทพฯ จะตอบรับหรือปฏิเสธกระแสพรรคประชาธิปัตย์อย่างไร ผ่านการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ก่อนจะไปถึงการเลือกตั้งสนามใหญ่ ซึ่งแกนนำในพรรคเองก็ประเมินแล้วว่าไม่ถึงปี ราว 8-9 เดือนเท่านั้น
แต่วันนี้สถานะของพรรคประชาธิปัตย์ กำลังได้รับผลกระทบจาก ปริญญ์เอฟเฟกซ์ อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนภาพปัญหาความขัดแย้ง แตกแยกกันเองภายในพรรคทั้งเรื่องส่วนตัวไปจนถึงเรื่องการเมือง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น การบ้าน ที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคและขั้วอำนาจในมือของเขาเองทั้งหมด ต้องเร่งคลี่คลาย ไม่เช่นนั้นรอบปริร้าวที่เกิดขึ้น ร้าวลึกกันอยู่ภายในพรรค อาจรุนแรงไปถึงขั้น เลือดไหล มีคนออกจากพรรค เมื่อ จังหวะเปิด ใกล้ถึงวันเลือกตั้ง
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ กำลังรับมือกับ ปัญหาส่วนตัวของอดีตแกนนำพรรค อย่างปริญญ์ กลับพบว่าทางฟาก พรรคเพื่อไทย เองใช่ว่าจะอยู่ในมุมที่ได้เปรียบ !
เพราะหากฟังเสียงและจับอาการจาก ท่าที ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในฐานะ เจ้าของพรรคตัวจริงยังพบว่า เกิดความไม่พอใจ ลูกน้องเก่า ที่ออกไปตั้งพรรค จนทักษิณ เอามาพูดถึงในคลับเฮ้าส์อย่างมีอารมณ์ หลายคนต่างพุ่งเป้าไปที่ พรรคไทยสร้างไทย ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค จนทำให้ล่าสุดมีแชทไลน์หลุดออกมาถึงมือสื่อ ว่าเกิดการงัดข้อกันเอง ระหว่าง ภูมิธรรม เวชยชัย กับ น.ต.ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ที่กำลังเดินหาเสียง ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ซึ่งถูกมองว่าเป็นการ แย่งฐานเสียง พรรคเพื่อไทย ด้วยกันเอง แม้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย จะไปลงสมัครในนามอิสระ ก็ตาม แต่จนถึงนาทีนี้ หลายคนก็ยังเชื่อว่า ระหว่าง พรรคเพื่อไทย กับ ชัชชาตินั้น ตัดกันไม่ขาด
สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยเวลานี้ ยังดูอึมครึม และวุ่นวายไม่น้อย จนทำให้รัฐบาลเองลดความกังวลได้เปลาะหนึ่งแล้วว่า อานุภาพ จากศึกซักฟอก รอบนี้ อาจไม่น่ากลัวเท่าที่คิด !