ในฐานะแม่ทัพใหญ่ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ไม่อาจอยู่นิ่งเฉย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบรรยากาศทางการเมือง ยามนี้ ทุกพรรค ทุกค่ายต่างเข้าสู่โหมดของการเตรียมตัวลงสนามเลือกตั้งกันเป็นทิวแถว แม้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ “ผู้จัดการรัฐบาล” จะออกมาบอกว่าการเลือกตั้งน่าจะมีขึ้นหลังเสร็จสิ้นการประชุมเอเปคในเดือนพ.ย.65 แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนกลับคาดหวังว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อาจมีอันต้อง “ไปก่อน” เพราะไม่ฝ่าด่านว่าด้วยเงื่อนปม “นายกฯ 8 ปี” ไปไม่พ้น ในเดือนส.ค. สำหรับพรรคเศรษฐกิจไทยแล้ว วันนี้มีส.ส.ในมือ 18 เสียง รวมร.อ.ธรรมนัส แต่ใช่ว่า ในฐานะแม่ทัพจะวางใจได้ว่า พรรคจะเติบโต และสามารถเป็น “เพล์เมกเกอร์” บนกระดานการเมือง ในการเลือกตั้งรอบหน้าเพราะกว่าที่การเมืองจะเดินไปถึงวันเลือกตั้ง ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วกว่าที่รัฐบาลจะอยู่ครบเทอม ต้องบอกว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้” วันนี้ 18 มี.ค. พรรคเศรษฐกิจไทย มีการประชุมใหญ่พรรค เพื่อเปิดตัว “บิ๊กเนม” คนสำคัญ คือ “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา จ่อขึ้นนั่งเก้าอี้ “หัวหน้าพรรค” โดยมีร.อ.ธรรมนัส เองจะทำหน้าที่เป็น “แม่บ้านพรรค” แต่ดูเหมือนว่า การขยับของพรรคเศรษฐกิจไทย ในห้วงเวลานี้อาจถูก ลดทอนความหวือหวาด้วยการเคลื่อนไหวของ “ฟากรัฐบาล” โดยเฉพาะ บรรดา “กลุ่มการเมือง” ที่เตรียมตบเท้าเข้าร่วมกับ “พรรคพลังประชารัฐ” และ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่มี “แรมโบ้อีสาน” เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยประจำนายกรัฐมนตรี คนใกล้ชิดพล.อ.ประยุทธ์ เป็น “โต้โผใหญ่” ทำหน้าที่ตั้งพรรคเอาไว้เตรียมบ้านใหม่ ให้กับพล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่พรรคเพื่อไทยเอง ที่แม้จะเชี่ยวชาญกับการเลือกตั้ง “บัตร 2ใบ” ก็ย่อมไม่มีอะไรการันตีได้ว่า ในการเลือกตั้งรอบหน้า พรรคเพื่อไทยจะสามารถ ชนะแบบถล่มทลาย เท่าที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ปัดหมุดเอาไว้ได้จริง เพราะทุกภาค ทุกฐานเสียงที่เคยเป็นของพรรคเพื่อไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ได้กลายเป็น “สังเวียนใหม่” ที่ดึงดูดทุกพรรคการเมือง ให้เข้าไปช่วงชิงและจับจอง เก้าอี้ส.ส. ดังนั้นโอกาสที่ พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีร.อ.ธรรมนัส แม้จะเคยทำงานใกล้ชิดกับ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวอดีตนายกฯทักษิณ แต่นั่นคืออดีตและวันวานที่อาจไม่หวนกลับมา โดยฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพรรคเพื่อไทย โดยสายของเยาวภา จำเป็นต้องรักษาพื้นที่ภาคเหนือ เอาไว้ให้ได้ เพื่อตรึงฐานในภาคเหนือ ชดเชยกับภาคอีสานที่พรรคเพื่อไทยกำลังถูกรุมจากพรรคฝ่ายรัฐบาล จึงเท่ากับว่า พรรคเศรษฐกิจไทย ย่อมไม่ใช่ “มิตร” ของพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกัน ยังจะกลายเป็นพรรคที่อยู่ในเป้าหมายการลดทอนกำลังจาก พรรคฝ่ายรัฐบาล หากหลังจากนี้ ท่าทีของเศรษฐกิจไทย ยังยืนอยู่ด้วยความแข็งกร้าว กับ “ป.ประยุทธ์” ไม่เลิก ไม่รา!