ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต ระบุการประเมินความเสี่ยงต่อภาวะเครียดของปราชน จาก www.วัดใจ.com ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่มีแนวโน้มว่าช่วงเวลาและกอตกรรมการรวมญาติ ของเทศกาลสงกรานต์จะส่งผลด้านบวกทำให้ภาวะเครียดของประชาชนผ่อนคลายลงได้ แต่หากการพบปะกันนั้นนำไปสู่การแพร่กระจายของโควิด-19 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุก็อาจกลับกลายเป็นเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงถึงชีวิต และยิ่งทำให้ความเครียดในสังคมทวีความรุนแรง กรมสุขภาพจิตจึงมีข้อแนะนำให้ผู้สูงอายุเร่งรัดการฉีดวัคซีนโดยเร็วเพื่อให้ทันต่อช่วงเวลาในการสร้างภูมิคุ้มกันก่อนการพบปะกัน และให้ลูกหลานสามารถกลับไปเยี่ยมช่วงสงกรานต์ได้อย่างสบายใจและปลอดภัย ทั้งนี้ จากข้อมูลการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 ที่ผ่านมาพบว่า ผู้สูงอายุหลายรายที่เสียชีวิต ไม่ได้เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง คาดว่าจะติดเชื้อจากคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดที่เดินทางกลับไปเยียมบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สำหรับช่วงเทศกาลสงปรานต์ปี 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไม่ได้ห้ามการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ โดยประชาชนยังสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ เพียงแต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการ VUCA (Vaccine, Universal Prevention, Covid Free Setting, ATK) ซึ่งต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิดกระตุ้นเข็ม 3 ทั้งผู้เดินทางกลับบ้าน และผู้ที่อยู่ที่บ้าน และมาตรการป้องกันตนเอง ทั้งระหว่างเดินทางกลับและระหว่างร่วมกิจกรรม ส่วนสถานที่จัดงานต่างๆ ต้องมีระบบการประเมินตนเอง และผู้ให้บริการต้องได้รับวัคซีนครบ รวมไปถึงต้องมีการสุ่มตรวจ ATK ทั้งก่อนและหลังเดินทางไปต่างจังหวัด ทั้งนี้ กรมอนามัย ได้มีการรายงานมาตรการความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก และที่ประชุม EOC ของกระทรวงสาธารณสุข โดยได้มีการประเมินความเสี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้ติดโควิดได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางกลับภูมิลำเนา การรวมตัวของญาติพี่น้อง การพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารร่วมกัน การทำกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การสาดน้ำปะแป้ง และกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ พร้อมมองว่า จะต้องมีการเฝ้าระวังในสถานที่เสี่ยง เช่น สถานีขนส่งสาธารณะ ทั้งเครื่องบิน รถโดยสาร รถตู้ รถประจำทาง ปั้มน้ำมัน จุดพักรถ ตลอดจนที่บ้าน ร้านอาหาร และศาสนสถานต่างๆ หรือสถานที่จัดงานสงกรานต์ร่วมกัน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมไปถึงโรงแรม ห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้า รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ก่อนเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะในกลุ่ม 607 อย่างไรก็ตาม 6 หน่วยงาน คือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะพิจารณามาตรการความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เข้าสู่ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 18 มี.ค.นี้ นับถอยหลังจากวันนี้ไปอีก 1 เดือน เราคาดหวังว่า การฉีดวัคซีนจะครอบคลุมผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง เพื่อลดการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ไม่ให้ซ้ำรอยสงกรานต์โควิด 64