การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ นั่นก็หมายถึงจะเหลือระยะเวลาหาเสียงอีกเพียงเดือนเศษๆ เท่านั้น โดยมีความเคลื่อนไหวสำคัญคือ การเปิดตัวลงสมัครรับเลือกตั้งของ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่จะลงสมัครในนามอิสระ
ในขณะที่หลายฝ่ายจับตาว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กลุ่มรักษ์กรุงเทพฯจะลงแข่งในสนามนี้จะต้องลาออกก่อนหรือไม เรื่องนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ระบุว่าประกาศวันเลือกตั้งแล้วค่อยลาออกก็ได้ เพราะหากยังไม่รู้วันเลือกตั้งแล้วไปลาออก เกิดกำหนดอีก 6 เดือนจะทำอย่างไร
แม้นักวิเคราะห์บางส่วนยังเชื่อว่า พล.ต.อ.อัศวิน จะไม่ลงเลือกตั้ง เนื่องจากหากลงสมัครก็จะตัดคะแนนกันเอง กับนายสกลธี ที่มีฐานเสียงเดียวกันคือพรรคพลังประชารัฐ และกปปส. รวมทั้งผู้สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างที่เคยปรากฎในการเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เขตหลักสี่ อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งส.ส.เดือนมีนาคม พรรคพลังประชารัฐได้ที่นั่งส.ส.กทม.มากที่สุดคือ 12 ที่นั่ง ขณะที่พรรคเพื่อไทยมี 9 ที่นั่งและอดีตพรรคอนาคตใหม่ อีก 9 ที่นั่ง
แม้การเลือกตั้งท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบลที่ผ่านมา มักจะไม่ยึดโยงกับการเลือกตั้งระดับชาติ แต่ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น บรรยากาศการเมืองระดับชาติ รวมทั้งกระแสสังคมมีส่วนสำคัญ ไม่น้อยไปกว่าฐานคะแนนเสียงจัดตั้ง นอกเหนือไปจากการให้การสนับสนุนจากพรรคการเมือง
อย่างไรก็ตาม จากการทำโพลของสำนักต่างๆ ส่วนใหญ่คะแนนเทให้กับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ลงสมัครในนามอิสระ แต่ก็มีเสียงสนับสนุนจากส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ตามมาด้วยนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ การเปิดตัวผู้สมัครในช่วงเวลาใกล้ๆ เลือกตั้ง มีทั้งจุดข้อดี และข้อด้อย ทั้งเรื่องระยะเวลาในการหาเสียง และโอกาสในการถูกโจมตีทางการเมือง
ทั้งนี้ เราคาดหวังให้ได้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่บริหารงานเป็น ตอบสนองต่อปัญหาต่างๆของคนกรุงเทพฯอย่างฉับไว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน
อย่างไรก็ตาม ในเชิงการเมอง เงื่อนเวลาในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะเป็นอีกเครื่องยืนยันที่สำคัญ ถึงวาระการดำรงอยู่ของรัฐบาล ท่ามกลางกระแสข่าวการกดดันให้ยุบสภานั้น หากการเลือกตั้งเกิดขึ้นปลายเดือนพฤษภาคม นั่นก็หมายถึงว่า รัฐบาลจะไม่ยุบสภาตามแรงเขย่าของฝ่ายค้าน