กรณีมีข่าวเด็กเล็กจมน้ำเสียชีวิตที่กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกโซเชียลนั้นประการหนึ่ง หากแต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ยังคงพบข่าวเด็กจมน้ำเสียชีวิตตามมา แม้จะเป็นเด็กวัย 12 ปีที่ว่ายน้ำเป็นและช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ เช่นกระแสน้ำ ก็เป็นอีกประการหนึ่ง ซึ่งการสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้นนำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจจนสุดประมาณของครอบครัว
และเมื่อเด็ก อนาคตของชาติ ถือเป็นการสูญเสียทรัพยากรสำคัญของประเทศ ภายใต้สถานการณ์การเกิดและเพิ่มจำนวนประชากรที่มีแนวฌน้มลดลง สถิติเด็กเกิดใหม่ขณะนี้น้อยกว่า 600,000 คนต่อปี ซึ่งจะทำให้อัตราของเด็กที่จะเติบโตขึ้นไปอยู่ในวันทำงาน หรือเป็นแรงงานขับเคลื่อนต่างๆด้านศรษฐกิจ สังคมและการเมือง
ดังนั้น หากเด็กไม่มี ความมั่นคงปลอดภัย และคุณภาพชีวิตที่ดี ก็จะเกิดผลกระทบต่อประเทศ
มีการแนะนำวิธีการสำหรับการดูแลเด็กเล็กไม่ให้จมน้ำ จากเพจเฟซบุ๊กของตำรวจสอบสวนกลาง แนะนำข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ปกครองไว้ดังนี้
1.ควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำในสระน้ำตามลำพัง
-กรณีพาเด็กไปท่องเที่ยวทางน้ำ ควรให้เด็กสวมเสื้อชูชีพทุกครั้ง
2.ควรสนับสนุนให้เด็กเรียนหรือฝึกว่ายน้ำ เพื่อให้มีความรู้และทักษะการเอาชีวิตรอด
3.ก่อนเล่นน้ำทุกครั้ง ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือข้อบังคับต่างๆ เพื่อลดอุบัติเหตุจากการจมน้ำ
4.ผู้ปกครองควรมีความรู้ในการช่วยเหลือเด็ก เมื่อเกิดเหตุเด็กจมน้ำ
ในสังคมเมือง ที่ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวเดียว มีพ่อแม่ลูก อาจทำให้ภาระการเลี้ยงดูตกอยู่กับแม่เพียงลำพัง และบางคนอาจต้องเลี้ยงดูลูกไปด้วยทำมาหากินอยู่กับบ้าน เช่นทำงานออนไลน์ จึงต้องยิ่งเพิ่มความระมัดระวังในการดูแลลูก โดยเฉพาะเด็กเล็ก ที่หากเผลอเพียงเสี้ยววินาทีอาจเสียใจไปตลอดชีวิต ไม่เพียงแต่บ่อน้ำ สระน้ำ หรือร่อง้ำที่มีน้ำเพียงสูงเพียงเล็กน้อยเด็กก็สามารถจมได้ แม้แต่แทงก์น้ำ หรือโอ่งกักเก็บน้ำก็เป็นสิ่งที่พึงระมัดระวัง เพื่อรักษาดวงใจของพ่อแม่ให้เติบโตอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี