พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศผลักดันให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน ครอบคลุม 8 กลุ่มหนี้ ที่เห็นว่ามีการแก้ไขปัญหาในเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะมีความคืบหน้าในส่วนของธนาคารของรัฐที่น่าสนใจ ทั้งในส่วนของธนาคารออมสิน ที่ได้ออกมาตรการ ชะลอการดำเนินการทางกฎหมายมิถุนายน 2565 เพื่อช่วยไม่ให้ลูกหนี้ต้องกังวลเรื่องคดีความ และขับเคลื่อนนโยบายรัฐในการช่วยเหลือประชาชน โดยมาตรการดังกล่าวจะชะลอหรือผ่อนปรนการดำเนินการทางกฎหมายต่อลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสีย หรือ NPLs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโควิด 19 เพื่อช่วยลดภาระลูกหนี้ ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ประกอบด้วยสินเชื่อ 4 ประเภท ได้แก่ สินเชื่อบุคคล-รายย่อย สินเชื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย สินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา และ สินเชื่อธุรกิจ SMEs ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยธนาคารจะชะลอการฟ้องคดีต่อศาลไว้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ซึ่งรวมถึงลูกหนี้ที่มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความในชั้นศาล และมีการผ่อนชำระดีมาอย่างต่อเนื่อง แต่มาเริ่มค้างชำระในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 31 ธันวาคม 2564 ธนาคารจะชะลอการดำเนินการทางกฎหมาย โดยชะลอไม่ฟ้อง ไม่ยึดทรัพย์ ไม่ขายทอดตลาด และไม่ฟ้องล้มละลาย แล้วแต่กรณีตามสถานะของลูกหนี้แต่ละราย ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธ.ก.ส. ก็มีแผนเข้าไปช่วยแก้หนี้ครัวเรือนตามโดนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายเป็นปีแห่งการแก้หนี้ ซึ่งจะช่วยเหลือลูกค้าเงินกู้ ทั้งเกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการ และสถาบันเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาผลผลิตการเกษตรได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ราคาผลผลิตตกต่ำ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือมีรายได้ไม่สอดคล้องกับแผนการชำระหนี้เดิม ซึ่งจะเข้าไปช่วยให้มีการบริหารจัดการหนี้อย่างยั่งยืน โดยจะให้พนักงานในพื้นที่ไปพบลูกค้าทุกราย โดยมีเป้าหมายเกษตรกรที่ใช้บริการสินเชื่อจาก ธ.ก.ส.จำนวน 4.83 ล้านราย เพื่อสอบถามข้อมูลการประกอบอาชีพ ที่มาของรายได้มาประเมิน โดยวิเคราะห์ศักยภาพสมรรถนะ และความสามารถในการประกอบอาชีพ ความสามารถในการชำระหนี้ จากนั้นจัดกลุ่มลูกหนี้ตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด โดยแบ่งเป็นกลุ่มตามศักยภาพ เช่น กลุ่มที่มีศักยภาพสูง กลุ่มศักยภาพปานกลาง กลุ่มมีเหตุผิดปกติ เป็นต้น เพื่อทำการบริหารจัดการหนี้ให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ถือเป็นการขยับขับเคลื่อนที่สำคัญ ที่เรียกได้ว่าตรงเป้า และตรงจุดในการแก้ไขปัญหา ขอให้เดินหน้าอย่างจริงจัง