วันนี้ 17 ก.พ.65 คือวันแรกของการระเบิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามมาตรา 152 โดยจะมีไปถึงศุกร์ที่ 18 ก.พ.นี้ ถือเป็นการย้ายเวทีให้ พรรคฝ่ายค้าน ใช้เวลากว่า 20 ชั่วโมงเพื่อ จัดหนัก ครม.ทั้งคณะ โดยมี บิ๊กตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะนำทัพรัฐมนตรีทั้ง 35 คน สู้ศึก ด้วยความมั่นใจ แม้ก่อนหน้านี้ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะระบุว่า เปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 นั้นถือว่าเป็นการอภิปรายเพื่อเสนอข้อเสนอแนะ ต่อรัฐบาลไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้ในห้วงตลอด 2 วันนี้ จะไม่มีการโหวตยกมือ ไว้วางใจ หรือ ไม่ไว้วางใจ ก็ตาม แต่สำหรับพรรคฝ่ายค้านแล้วนี่คือโอกาสทอง ที่ตรวจสอบ และซักฟอกการบริหารงานของรัฐบาล ในช่วง ขาลง คะแนนนิยมของฝ่ายรัฐบาล ตกอย่างต่อเนื่อง และมีความเป็นไปได้สูงว่า นอกเหนือไปจากการหยิบยก เขย่า รัฐบาลด้วยข้อผิดพลาด บกพร่องจากการบริหารงานแล้ว ยังอาจได้เห็นการเสนอให้นับองค์ประชุม จากฝ่ายค้านเป็นระยะๆ เพื่อทดสอบและกดดันพล.อ.ประยุทธ์ ในทุกประตู อย่างไรก็ดี เมื่อหันกลับมามองที่ฟากรัฐบาลเอง พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ เองได้วางแผนการเล่นเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่า ตนเองจะพูดในภาพรวม และเมื่อมีการพาดพิงหรือเกี่ยวโยงไปถึงกระทรวงใด ก็ให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงเป็นผู้ตอบคำถาม และนายกฯจะเข้าสภาฯ ช่วงเช้าและเย็น แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือการที่พรรคพลังประชารัฐ และรัฐบาลจะไม่มีการตั้ง ทีมองครักษ์ พิทักษ์นายกฯและรัฐมนตรี ด้วยเชื่อว่า เอาอยู่ และประเมินว่าศึกอภิปรายฯรอบนี้ไม่มีน่าจะมีอะไรให้ตื่นเต้น ทว่าอีกด้านหนึ่ง กลับมีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จึง วางใจ ต่อสถานการณ์ได้เช่นนั้น ถึงขนาดที่ประกาศว่าไม่จำเป็นต้องตั้งทีมองครักษ์ ทั้งที่ทุกคนย่อมประเมินได้ไม่ยากว่า ศึกในสภาฯ ครั้งนี้อาจไม่เหมือนกับครั้งไหน ๆ แม้จะไม่มีการโหวตลงมติก็ตาม เมื่อ ศัตรู ของพล.อ.ประยุทธ์ อย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ได้พา ส.ส.ในกลุ่มออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ในนาม พรรคเศรษฐกิจไทย และมีที่นั่งอยู่ในสภาฯเรียบร้อยแล้ว โดยที่ยังไม่มีใครการันตีได้ว่า นอกจาก พรรคฝ่ายค้าน ที่ประกาศตัวซักฟอกนายกฯ และครม. แล้ว จะได้เห็น ส.ส.จากพรรคร.อ.ธรรมนัส ลุกขึ้นใช้สิทธิอภิปรายการทำงานของรัฐบาลด้วยหรือไม่ ยังไม่นับรวมประเด็น รถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ยังจะกลายเป็น ชนวน ที่พรรคฝ่ายค้านเลือกหยิบขึ้นมาอภิปรายฯ เพื่อ ขยายแผล ความขัดแย้งระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พรรคภูมิใจไทย กันกลางสภาฯ เพราะอย่าลืมว่า 7รัฐมนตรี ของพรรคภูมิใจไทย บอยคอตไม่เข้าร่วมประชุมครม. เพื่อคัดค้านกมาลงมติให้ความเห็นชอบการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวสร้างความฮือฮากันมาแล้ว !