วันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ ที่กลายเป็นเทศกาลสากล ที่แม้แต่ละประเทศจะมีประเพณีหรือการปฏิบัติที่แตกต่างกัน แต่โดยหลักรวมๆแล้วก็คือ การแสดงออกซึ่งความรักที่มีต่อกันและกันประสาพี่ไทยเราเป็นคนสนุกสนาน มีส่วนร่วมในทุกเทศกาลอยู่แล้ว วาเลนไทน์จึงกลมกลืนเข้ากับสังคมไทยได้อย่างสนิทแนบเนียน
ซึ่งวันดังกล่าวส่งผลทางจิตวิทยา โดยเฉพาะในแง่เศรษฐกิจ เทศกาลนี้มีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการออกไปเฉลิมฉลองเทศกาล ด้วยการท่องเที่ยว หรือรับประทานอาหาร กับครอบครัวและคนรัก การซื้อของขวัญ ของฝาก สิ่งของแทนใจ ทั้งดอกกุหลาบ ช็อกโกแลต รวมไปถึงสินค้าอื่นๆ
ในแง่สังคม นอกจากจะเป็นวันที่ผู้ใหญ่มักเป็นกังวลกันแทบทุกปี ที่จะต้องมีการเฝ้าระวัง การมีเพศสัมพันธ์ที่อาจนำไปสู่ปัญหาท้องไม่พร้อมในวัยรุ่น และการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ก่อนหน้านี้ มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้จุดพลุขับเคลื่อนเรื่องการแจกถุงยางอนามัย แจกยาคุมกำเนิดในเชิงรุก โดยเพิ่มจุดให้บริการในหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อการเข้าถึงได้มากขึ้น ประกอบด้วย คลินิกการพยาบาลฯ, ร้านขายยา, โรงพยาบาลเอกชน, คลินิกเวชกรรม และหน่วยบริการปฐมภูมิ ซึ่งเปิดให้หญิงไทยทุกสิทธิ์ อายุระหว่าง 15-59 ปี โดยผู้รับบริการสามารถรับบริการยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ครั้งละไม่เกิน 3 แผง คนละไม่เกิน 13 แผง/ปี ส่วนวิธีการขอรับสามารถทำได้ผ่านโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนในแอปเป๋าตัง เมนูกระเป๋าสุขภาพ โดยเลือกบริการสร้างเสริมสุขภาพ เลือกหน่วยบริการที่จะไปรับ จองสิทธิ์ และไปรับภายในวันที่จองสิทธิ์ ส่วนกรณีไม่มีสมาร์ทโฟน ให้แสดงบัตรประชาชนเพื่อขอรับยาคุมกำเนิด ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
ส่วนถุงยางอนามัย มีเงื่อนไขในการให้คือ ให้บริการแก่คนไทยทุกสิทธิ์อายุ 15 ปีขึ้นไป รับบริการได้ครั้งละ 10 ชิ้น/ สัปดาห์ รอบการจ่าย 7 วัน รับได้ 1 ครั้ง ไม่จำกัดจำนวนถุงยาง/คน/ปี วิธีการขอรับถุงยาง ทำได้โดยใช้สมาร์ทโฟน Add Line สปสช. สแกน QR code ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการแจกถุงยางอนามัย (ดูรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ สปสช.) เพื่อรับถุงยางอนามัยตามไซส์ มีให้เลือก 4 ไซส์ คือ 49 มม., 52 มม., 54 มม. และ 56 มม. ทั้งนี้ การให้บริการยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน จะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565 นี้เป็นต้นไป ส่วนถุงยางอนามัยจะเริ่มให้บริการในช่วงเดือนเมษายน 2565
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธ์โอไมครอนที่ครอบคลุมไทยเกือบ 100 % จะเป็นปัจจัยสำคัญ ที่มีผลต่อการพบปะเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์ และการมีเพศสัมพันธ์ แม้โอไมครอนมิอาจกั้นขวางทางรัก แต่ก่อนนัดฉลองวันวาเลนไทน์ คู่รักต้องไม่ลืมนัดกันตรวจ ATK เพื่อวาเลนไทน์ปลอดโควิด