การออกมาส่งสัญญาณจาก จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ด้วยการดักคอ ผู้มีอำนาจ ที่จะกำหนดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อย่าทำให้กลายเป็นเรื่องลึกลับซ้อนซ้อน ! วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต่างจากเสือติดปีก นับตั้งแต่วันที่พรรคชนะสนามเลือกตั้งซ่อม ได้ทั้ง 2 เขตในพื้นที่ภาคใต้ที่ผ่านมา ทั้งเขต1ชุมพรและ เขต6 สงขลา โดยล่าสุด สุภาพร กำเนิดผล เพิ่งเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร รับตำแหน่ง ส.ส.สงขลาป้ายแดง ไปหมาดๆเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ ยังดูเหมือนว่าจะเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ประกาศตัว ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ไปแล้วอย่างเป็นทางการเมืองปลายปี2564 ที่ผ่านมา ทำให้ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ สวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์เดินสายหาเสียง คะแนนในฐานะผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ ด้วยความคึกคัก แต่กลับกลายเป็นว่าวันนี้คะแนนนิยมที่กำลังตีตื้นของประชาธิปัตย์ จากความสำเร็จในพื้นที่ 2จังหวัดภาคใต้ ทั้งชุมพรและสงขลา ไม่สามารถนำมา ต่อยอด ให้กับ ดร.เอ้ ในสนามกทม.ได้ จุรินทร์ ให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันที่ 29 ม.ค.65 ที่ผ่านมา มีความชัดเจนว่า ต้องการสื่อไปถึง ผู้มีอำนาจ ให้แสดงความชัดเจนว่าการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.เป็นเรื่องบ้านเมือง เป็นเรื่องของประเทศ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของผู้มีอำนาจคนใด คนหนึ่ง ความชัดเจนควรจะเกิดขึ้น ไม่ใช่เก็บไต๋ไว้แล้วคอยดูว่าเมื่อไหร่จะได้เปรียบเสียเปรียบกันแล้วถึงตัดสินใจ มันไม่ถูกต้อง ควรที่จะให้มีความชัดเจน ประชาชนจะได้ทำตัวถูก ผู้สมัครจะได้รู้ว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อไหร่ เพราะเราไม่มีเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. มานานแล้ว คนกรุงเทพก็หวังอยากได้ผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งหมดนี้ไม่ได้แปลว่าพอประชาธิปัตย์มีผู้สมัครแล้วก็จะมาเร่งรัด ผมไม่ได้เร่งรัด แต่คิดว่าควรเปิดเผยไปในครรลองที่ถูกที่ควรตามระบอบประชาธิปไตยได้แล้ว ผู้มีอำนาจที่จุรินทร์ สื่อสารไปถึง จะเป็นใครหากไม่ใช่ผู้นำรัฐบาลที่ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล จนถึงวันนี้ยังอยู่ในสภาพละล้าละลังบอกไม่ได้ว่า ใคร คือผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ทั้ง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ประกาศตัวลงสมัครในนามอิสระก่อนใครเพื่อน อีกทั้งยังมีคะแนนนิยมนำโด่ง จึงอยู่ในสภาพที่เหนื่อยล้า เพราะไม่รู้ว่าวันเลือกตั้งจะมาถึงเมื่อใด เช่นเดียวกับสุชัชวีร์ ที่ประกาศตัวสวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังต้องเดินสายหาเสียง ทยอยนำเสนอแนวคิดและนโยบายเพื่อซื้อใจคนกรุงเทพฯ ต่อไปโดยที่ยังตอบไม่ได้ว่า สนามเลือกตั้งจะเปิดวันไหน ในท่ามกลางกระแสข่าวความวุ่นวายทางการเมืองรอบด้าน ที่ล้วนจะมีผลกระทบต่อสนามผู้ว่าฯกทม. ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยุบสภาฯ หรือ นายกฯลาออก