ปัญหาสินค้าราคาแพงที่ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน ในระยะสั้น รัฐบาลได้สั่ง ตรึงราคาสินค้าพลังงานและอาหาร โดยสั่งตรึงราคาไก่ ไข่ มาม่า ก๊าซหุงต้มและก๊าซเอ็นจีวีสำหรับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ขณะที่ล่าสุดได้ปรับแผนดันโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ออกมาก่อนกำหนด โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยประชาชนทุกกลุ่มทุกสาขาอาชีพ สั่งเร่งบรรเทาผล กระทบค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ โอไมครอนที่ยังส่งกระทบภาพกับรวมเศรษฐกิจไทย จึงได้มอบหมายกระทรวง การคลังเร่งรัดโครงการฯ ให้เร็วขึ้นจากเดิมที่ได้กำหนดระยะเวลาการออกมาตรการไว้ประมาณช่วงเดือนมีนาคม- เมษายน 2565 โดยจะสามารถเปิดลงทะเบียนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 และเริ่มใช้จ่ายได้ใน วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ส่วนเงื่อนไข และ รายละเอียดว่าจะได้รับตัววงเงินสิทธิ์เท่าใดนั้น ต้องให้คณะกรรมการกลั่นกรองเคาะอนุมัติวงเงินก่อน จากนั้นจะจัดทำแนวทางแล้วนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงสามารถเปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 4 ให้กับพี่น้องประชาชนได้ต่อไป ทั้งนี้ วงเงินที่จะนำมาใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 จะนำมาจาก พ.ร.ก.เงินกู้ฉุกเฉิน 5 แสนล้านบาท ที่ถูกจัดไว้เพื่อใช้ในการดูแลเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และก่อนหน้านี้ โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ยังมียอดใช้จ่าย ไม่เต็มจำนวน โดยเหลือวงเงินที่ส่งคืนรัฐอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มีเสียงสนับสนุนจากภาคเอกชน โดยนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเร่งออกโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ให้ใช้ได้เร็วขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ว่า ถือว่าดีและมาถูกทางแล้ว เนื่องจากหอการค้าเรียกร้องรัฐบาลให้ต่ออายุ และเพิ่มวงเงินโครงการคนละครึ่งมาตั้งแต่ปี 2564 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน โดยวงเงินที่เพิ่มให้ 1,500 บาทต่อคน มองว่าไม่ได้น้อยเกินไป แต่ต้องทยอยเพิ่มวงเงินให้เป็นระยะๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนให้ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังเสนอให้ภาครัฐเร่งโครงการช้อปดีมีคืน และเพิ่มเพดานวงเงินที่ได้คืน เป็น 50,000-100,000 บาท จากเดิม 30,000 บาท เพื่อสร้างแรงสั่นสะเทือนให้มากกว่านี้ เพราะช้อปดีมีคืน สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของกลุ่มคนมีเงินที่ต้องเสียภาษีได้สูงมาก โดยมองว่าหากไม่มีการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เชื่อว่าการใช้จ่ายของคนที่ยังมีเงินอยู่จะระเบิดออกมามากกว่านี้ เนื่องจากที่เห็นช้อปดีมีคืนค่อนข้างเงียบและช้าอยู่นั้น เป็นเพราะตอนนี้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าออกจากบ้าน เพื่อใช้จ่ายเท่านั้น แต่เชื่อว่า หากโอไมครอนคลายตัวได้เร็ว เม็ดเงินในช้อปดีมีคืนจะสะพัดแรงมากแน่นอน ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงต้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และไม่ให้ขาดช่วงการใช้จ่าย โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งนั้น เข้ามาเยียวยาทั้งปัญหาราคาสินค้าและผลกระทบจากโควิด ท่ามกลางวาทะกรรมตอบโต้กันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเรื่องเคลมผลงาน กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าวันนี้มาตรการนี้ตอบโจทย์สถานการณ์ระยะสั้น ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง