ผลพวงจากการความพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อม ที่เขต 1 ชุมพร และเขต 6 สงขลา กำลังกลายเป็น หนังเรื่องยาวสำหรับ พรรคพลังประชารัฐ อีก ทั้งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าพลังของพรรค ยังไม่มากพอที่จะเจาะเข้าไปในฐานที่มั่น ของพรรคประชาธิปัตย์ มิหนำซ้ำในฐานะพรรคแกนนำร่วมรัฐบาล กลับต้องมารับมือกับจากปัญหา ภาวะของแพง ที่เป็น มรสุมลูกใหม่ พุ่งเข้าใส่ครม.ทั้งคณะ
ล่าสุดความกังวลจาก คนในพรรคพลังประชารัฐ ได้สะท้อนผ่านสื่อ ว่า วันนี้นอกเหนือไปจากประเด็นทางการเมืองแล้ว ปัญหาราคาสินค้าแพง หมูแพง ไข่ไก่แพง และวัตถุดิบในการบริโภค มีแนวโน้มปรับตัวพุ่งขึ้นตามมา สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วจะกลายเป็น เงื่อนไข ที่กดดันมีผลต่อ คะแนนนิยม ต่อการต่อสู้ในสนามเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่กทม. เขต 9 หลักสี่ ในวันที่ 30 ม.ค.นี้ อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก
วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ระบุว่าวันนี้หากรัฐบาลยังแก้ไขปัญหาราคาของแพงไม่ได้ จะกระทบต่อคะแนนแน่นอน
การเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ยังแก้ปัญหาสินค้าแพงไม่ได้ จะมีผลกระทบต่อคะแนนแน่ รวมถึงมีผลกระทบต่อเสถียรภาพของพล.อ.ประยุทธ์เองก็จะมีปัญหาตามมาด้วย
ถ้าของแพงไม่ว่ารัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ สนามเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เป็นเครื่องชี้วัดคะแนนนิยมพล.อ.ประยุทธ์โดยตรง ถ้าแพ้ก็ชี้ชัด คะแนนนิยมมีปัญหา (18 ม.ค.65) วีระกร เชื่อว่า ถ้ายังแก้ของแพงไม่ได้ ไม่ใช่แค่เฉพาะสนามเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เท่านั้น แม้แต่สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ก็อย่าไปหวัง !
ในการประชุมครม.ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 18 ม.ค.65ที่ผ่านมา นอกเหนือไปจากปัญหาความขัดแย้งผลพวงจากการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมแล้ว บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยังกำชับให้รัฐมนตรีในทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาราคาหมูแพง ให้เร่งกลับไปตรวจสอบ และกลับมารายงาน ในครม.อีกครั้งว่าเกิดปัญหาอะไรจากจุดไหน โดยเฉพาะ ประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเป็นความรับผิดชอบโดยตรง รวมทั้งขอให้กระทรวงพาณิชย์ไปคุมเรื่องราคาของแพงให้ด้วย
สถานการณ์ทางการเมือง ในพรรคร่วมรัฐบาลอันเกิดจากความขัดแย้งจากสนามเลือกตั้งซ่อม ยังอาจพอที่จะเจรจากันด้วยไมตรี ประนีประนอมได้ แต่สำหรับปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องยากที่พล.อ.ประยุทธ์ และครม.ทั้งคณะ จะต้องเร่งคลี่คลาย ให้เร็วที่สุด !