แสงไทย เค้าภูไทย ลอตเตอรี่กับอาหาร เป็นสินค้าคนละประเภท แต่มีปัญหาร่วมกันคือ ราคาแพงมีตัวการทำให้แพงร่วมกัน คือพ่อค้าคนกลาง ส่วนสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น คนกลางคือยี่ปั๊ว เป็นเสือนอนกิน ได้โควตามาก็ขายกันเป็นทอดๆ ราคาจากกองสลากเมื่อผ่านยี่ปั๊ว ซาปั๊ว จึงแทบจะเท่ากับราคาที่กองสลากฯกำหนดขายปลีกฉบับละ 80 บาท จึงเป็นธรรมดาที่ผู้ค้ารายย่อย นำไปเร่ขาย จำเป็นต้องบวกราคาเอากำไร เป็น 100 บาทสำหรับฉบับเดี่ยว หรือเพิ่ม 120-130 สำหรับควบ 2 ฉบับหรือเลขชุด ถามผู้ค้าเร่ว่าวิธีแก้จะทำอย่างไร พวกเขาพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า เปิดเสรี ยกเลิกการผูกขาดของยี่ปั๊ว โดยกองสลากตั้งเคาน์เตอร์ขายเองในทุกจังหวัด ราคาที่ขายแก่ผู้ค้าเร่หรือแผงขายรายย่อย เท่ากับราคาที่ขายแก่ยี่ปั๊ว ทั้งนี้ผู้ค้ารายย่อยที่มีสิทธิ์ซื้อสลากไปขายต่อ จะต้องขึ้นทะเบียนกับกองสลาก ส่วนที่ผู้ค้าเร่นำไปกลัดเข้าชุดเป็นชุดเลขสวย บวกราคากันนั้น ถือเป็นความสมยอม ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย สำหรับหวยใต้ดิน คนขายลอตเตอรี่ที่คุยด้วยบอกว่า คนแทงหวยกับเจ้ามือมีข้อตกลงกัน สมัยทักษิณจะเอาขึ้นบนดินนั้น ไปขัดผลประโยชน์ “เจ้า”รายใหญ่เข้า ไปโยงเข้ากับการปราบยาเสพติด ที่มีการฆ่าตัดตอนกันในข่ายโยงกว่า 2,000 ศพ ก็เดือดร้อนถึง เจ้ารายใหญ่เช่นกัน การที่จะให้หวยใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน นั้น ยามนี้ไม่ควรทำ เพราะหวยใต้ดินมี ซื้อขายกันผ่านโทรศัพท์และการเดินโพย หรือตอนนี้ผ่านออนไลน์ทำกันง่าย เลือกเลขเก็งได้ง่ายกว่าลอตเตอรี่ ถ้าเอาหวยใต้ดินขึ้นมาไว้บนดิน ผู้ค้าเร่จะเดือดร้อน คนจะซื้อ “หวยใบ”ลดลง ในยามที่มีคนตกงานมาก เหตุจาก กิจการ ห้างร้าน ร้านค้า โรงงาน ปิดกันมาก จากการระบาดของโควิด-19 คนตกงานส่วนหนึ่งหันมาขายลอตเตอรี่ จำนวนผู้ค้าเร่จึงเพิ่มมากกว่าช่วงปกติกว่าเท่าตัว หวยใต้ดิน จึงควรจะอยู่ใต้ดินไปก่อน ส่วนหวยบนดินหรือสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็ควรจะกระจายไปยังผู้ค้าเร่ให้มากที่สุด ในราคาต่ำพอๆกับที่กองสลากฯขายให้แก่ยี่ปั๊ว เพื่อให้คนตกงานนับแสนๆคนได้มีงานทำ มีรายได้พอประทังชีวิตให้พ้นวิกฤตการณ์โรคระบาดนี้ไปก่อน นี่เป็น ส่วนหนึ่งของเนื้อหาที่ได้จากการสัมภาษณ์คนขายเร่ลอตเตอรี่ สำหรับอีกด้าน สินค้าอาหาร ไม่ว่าจะเนื้อหมู ไก่ ไข่หรือแม้แต่พืชผัก ผลไม้ ก็ล้วนมีระบบคนกลางทั้งสิ้น คนกลางการค้าเนื้อหมูคือเขียงหมู มีลูกค้ารายย่อยเรียกว่าลูกเขียง คนกลางค้าผัก ผลไม้คือล้ง และตลาดกลางอย่างตลาดไทเป็นต้น คนกลางเหล่านี้คือผู้คุมกลไกราคาสินค้า สามารถกำหนดราคาได้ทั้งระบบ ตอนนี้เรากำลังกระหยิ่มยิ้มย่องว่าจะได้ตลาดสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผักผลไม้ไปยังจีน แต่รู้กันไหมว่า ทุนจีนเข้ามาครอบงำราคาสินค้าเกษตรไทยแทบจะทั้งระบบโดยผ่านล้งที่เป็นคนไทย หรือคนจีนเข้ามาเป็นล้งเสียเองในแถบจังหวัดภาคเหนือนานเป็นปีๆมาแล้ว การค้าชายแดนระหว่างไทยกับจีนนั้นมีมานานเป็นปีๆแล้ว โดยใช้รถบรรทุก คาราวานรถบรรทุกสินค้าจากจีนเข้าสู่ชายแดนไทยนั้น ก่อนจะมีรถไฟคุนหมิง-เวียงจันทน์ เคยจอดรอกันยาวหลายกกิโลเมตร พอมีรถไฟมาถึงเวียงจันทน์ แม้จะยังไม่มีสะพานรถไฟข้ามมาไทย แต่ก็ทำให้สินค้าจีนเข้ามาท่วมตลาดไท อันเป็นศูนย์ค้าส่งพืชผักผลไม้ใหญ่ที่สุดในประเทศในชั่วข้ามคืน เราจะสู้เขาไหวหรือ ในเมื่อเขาเข้ามาตั้งฐานรับ-ส่ง-กระจายสินค้า ในไทยนานแล้ว ?