ผลการเลือกตั้งซ่อมทั้งสอง 2 เขตในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้การเมือง เดินหน้าเข้าสู่ จุดเดือด ครั้งใหม่ โดยเฉพาะการเปิด ศึกใน ระหว่างกลุ่มการเมือง ในพรรคพลังประชารัฐด้วยกันเอง หลังจากที่มีความพยายาม สงบศึก กันมาก่อนหน้านี้ ! เมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะพรรคเจ้าถิ่น สามารถรักษาเก้าอี้ส.ส.เอาไว้ได้ ทั้ง2 ที่นั่ง โดยการ เลือกตั้ง สส.เขต 6 สงขลา สุภาพร กำเนิดผล จากพรรคประชาธิปัตย์ เอาชนะค่าแข่งได้ ทำแต้มไปได้ 45,576 คะแนน ส่วน อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ จากพรรคพลังประชารัฐ ทำได้ 40,531 คะแนน ขณะที่การเลือกตั้งซ่อมเขต 1 ชุมพร อิสรพงษ์ มากอำไพ จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 คือ 48, 981 คะแนน ทิ้งห่างจาก ชวลิต อาจหาญ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ได้ 32,229 คะแนน เท่ากับว่าครั้งนี้ ไม่เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์ จะประกาศชัยชนะในเขตเลือกตั้งเดิมเอาไว้ได้ด้วยคะแนนที่ทิ้งห่างจาก ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐโดยไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยแล้ว ยังถือเป็นการปลุกขวัญและกำลังใจชาวประชาธิปัตย์ ให้เตรียมสู้ศึกในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยความหวัง ในระหว่างที่พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศความสำเร็จในสนามเลือกตั้งซ่อมทั้งที่ชุมพรและสงขลา กลับปรากฎ อาการไม่ปกติ ขึ้นที่พรรคพลังประชารัฐ จนไม่อาจเก็บงำได้ เพราะขณะที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาโจมตีว่าไม่เคยเห็นการเลือกตั้งครั้งไหนที่จะมีการทุจริตกันขนาดนี้ อีกทั้งยังระบุว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐพ่ายเพราะการเข้าไปทำพื้นที่ของพรรคนั้นล่าช้า แต่ดูเหมือนว่า สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่ถูกแต่งตั้งให้ลงไปทำหน้าที่ ผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมที่สงขลา เขต 6 กลับออกมายืดอกยอมรับความพ่ายแพ้ พร้อมทั้งย้ำว่า เป็นลูกผู้ชายมากพอ เมื่อแพ้แล้วก็จะไม่โทษใคร ! นอกจากนี้ยังน่าสนใจว่า ประเด็นที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐ พ่ายแพ้ครั้งนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตุว่ามาจากการที่ร.อ.ธรรมนัส ลงไปปราศรัย โดยพูดเรื่อง ความจน -ความรวย จนทำให้พรรคประชาธิปัตย์ที่ เหนือชั้น หยิบไปใช้เป็น อาวุธ กลับมาทิ่มแทงสวนกลับ ทำให้พรรคพลังประชารัฐ เสียแต้มในช่วงทิ้งโค้งสุดท้าย ชนิดกู่ไม่กลับ แม้การตั้งสุชาติ เข้าไปทำหน้าที่ผอ.เลือกตั้ง เขต 6 สงขลา หรือการตั้ง สันติ พร้อมพัฒน์ ไปเป็นผอ.คุมการเลือกตั้งเขต1 ชุมพร ที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการตัดสินใจของ บิ๊กเนมในพรรคชนิดที่เรียกว่าผิดฝาผิดตัว จนมีการพูดกันไปถึงขั้นที่ว่า เป็นความตั้งใจของใครบางคนที่หวังจะส่งสุชาติ และสันติ ให้ไปเจอกับความพ่ายแพ้แต่แล้วสถานการณ์กลับพลิกผัน ผิดแผน เมื่องานนี้คนทำพลาดกลายเป็น ร.อ.ธรรมนัส เอง !