แม้จะอยู่ในรัฐบาลเดียวกันแต่เมื่อลงสนามเลือกตั้งซ่อม ทั้ง พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคพลังประชารัฐ ต่างเดินหน้าฟาดฟันกันสุดกำลัง ! ในการประชุมครม . ครั้งล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 11 ม.ค.65 ที่ผ่านมา บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กล่าวอวยพรให้รัฐมนตรี ซึ่งเป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ตอนหนึ่งว่า ไปหาเสียงก็ขอให้ประสบความสำเร็จดังที่ตั้งใจ และระวังเชื้อโควิดกันด้วยนะครับ ขณะที่ ผู้จัดการรัฐบาล อย่าง บิ๊กป้อมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตอบคำถามสื่อถึงการที่ 2พรรคร่วมรัฐบาลต่างแข่งขัน กันอย่างดุเดือดในการเลือกตั้งซ่อม 2 เขต ที่ภาคใต้ทั้ง เขต 1 ชุมพร และเขต6 สงขลา โดยเชื่อมั่นว่าจะไม่กระทบต่อ เสถียรภาพของรัฐบาล เรื่องของการเลือกตั้งก็ว่ากันไป จะไปเกี่ยวกับเรื่องพรรคร่วมรัฐบาลได้อย่างไร ไม่เกี่ยวอะไรกับรัฐบาลเลย พรรคร่วมเข้าใจกันไม่มีอะไร เมื่อผลเลือกตั้งออกมายืนยันว่าทุกอย่างก็จบเพราะที่ผ่านมาการเลือกตั้งซ่อม 5 ครั้ง เลือกตั้งเสร็จก็จบ ในความเป็นจริง ก็ดูเหมือนจะเป็นไปตามที่ผู้จัดการรัฐบาล ยืนยันกับสื่อ ว่า เมื่อเลือกตั้งซ่อมจบลง ทุกอย่างก็จบ ระหว่าง พรรคร่วมรัฐบาล เข้าใจกัน ไม่มีอะไร เพราะที่ผ่านมาการเลือกตั้งซ่อม มีขึ้นมาแล้วถึง 5 ครั้ง หลังยุติการเลือกตั้งซ่อม พรรคร่วมรัฐบาลก็ยังทำงานด้วยกันได้จนมาวันนี้ เพราะทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ ต่างรู้ดีว่า ไม่ว่าเบื้องหลัง เบื้องลึก จะถล่มกันในสนามเลือกตั้งหนักหน่วงแค่ไหนก็ตาม แต่การที่จะให้รัฐบาล แตกหักกันจนถึงขั้นทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยุบสภาฯ แล้วเปิดทางให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามความต้องการของฝ่ายค้าน นั้นคงเป็นไปได้ยาก !! และแม้แต่พรรคฝ่ายค้านเองที่เรียกร้อง กดดันหวังให้พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาฯ ให้มีการเลือกตั้งใหม่ในปีนี้ก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว พรรคฝ่ายค้านเองย่อมประเมินสถานการณ์การต่อสู้ได้ดีว่า นาทีนี้ยังไม่มีใครพร้อม เนื่องจากยังไม่เห็นหน้าค่าตาของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 2ฉบับทั้งพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่าที่สุดแล้ว สูตรคำนวณ ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์ จะออกมาในรูปไหน และ ใคร จะได้เปรียบ เสียเปรียบกันอย่างไร แต่เมื่อนาทีนี้กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่รัฐบาลกำลังเมาหมัดคือปัญหาที่มาจากการบริหารจัดการเรื่องหมูแพง ปัญหาปากท้องที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพี่น้องประชาชน จนทำให้เกิด แนวร่วม จากผู้คนในสังคม พากันออกมาโจมตีรัฐบาล ผสมโรงไปกับการรับมือกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่พบว่ามีตัวเลขเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อปัญหาจากการบริหารจัดการของรัฐบาลต้องการความร่วมมือกันเองในพรรคร่วมรัฐบาล โอกาสที่ ศึกในสนามเลือกตั้งซ่อมไม่ว่าจะดุเดือดมากแค่ไหนก็ตาม ที่สุดแล้วก็ไม่มีทางเดินไปถึง จุดแตกหัก ได้อยู่ดี !