ก่อนหน้าที่คาดหวังว่าบรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ จะมีความคึกคัก หลังจากที่คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ คลายล็อกเคาท์ดาวน์ปีใหม่ อนุญาตจัดงาน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้ถึง 01.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2565 ได้
ทว่าเมื่อพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน ก็ทำให้ประเทศไทยต้องกลับมาดำเนินมาตรการที่เข้มงวด ด้วยการยกเลิกการเข้าประเทสไทยที่ผ่านตรวจคัดกรองโควิดแบบเทสต์แอนด์โก มาเป็นกักตัวเหมือนเดิม ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแจ้งยกเลิกบุ๊กกิ้งห้องพัก เสียหายหลายสิบล้าน
ขณะที่กรุงเทพมหานครก็นำร่องงดจัดกิจกรรมปีใหม่ และกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในวันที่ 31 ธ.ค.64 และวันที่ 1 ม.ค.65 บริเวณลานคนเมือง รวมไปถึงในส่วนของสำนักงานเขตและหน่วยงานกทม.ทั้งหมด
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเรียกร้องให้ผู้คนยกเลิกแผนวันหยุดบางส่วนเพื่อปกป้องระบบ สาธารณสุข ซึ่งขณะนี้มีหลักฐานชี้ให้เห็นว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน แพร่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้าอย่างมีนัยสําคัญ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย พบว่ามีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์ โอไมครอน ข้อมูล ณ วันที่ 22 ธ.ค. 64 มีผู้เข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน มากกว่า 100 ราย ยืนยันแล้วจํานวน 27รายและอยู่ระหว่างรอผลยืนยันจํานวน 97ราย ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดและลดความเสี่ยงของ การติดเชื้อโควิด-19 โอไมครอน กรุงเทพมหานครจึงต้องยกเลิกการจัดกิจกรรมทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม จากสถานกาณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีมาตรการล้อกดาวน์ออกมาหรือไม่ เนื่องจากหลายประเทศเริ่มมีการนำมาตรการดังกล่าวมาใช้สกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอโมครอน
กระนั้น องค์การอนามัยโลก ยังมองว่ามาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดเพื่อคุมโอไมครอนนั้นไม่ได้ช่วยให้การแพร่ระบาดยุติลงได้ ขณะเดียวกันจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อปัญหาสุขภาพจิตด้วย โดยมีคำแนะนำให้กับประเทศที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์คุมเข้ม หาการสนับสนุนเพิ่มเติมแก่ผู้คนเพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานทางจิตใจที่จะเกิดขึ้น
ฉะนั้น วันนี้ก็ต้องภาวนาว่า การงดกิจกรรมเฉลิมฉลองต่างๆ จะทำให้ประเทศไทยไม่ต้องเดินไปสู่การล็อกดาวน์อีกครั้ง