การออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ตลอดจนวิเคราะห์สถานการณ์ของรัฐบาล ในปีหน้า 2565ว่าจะเต็มไปด้วย ปัญหาŽ มีหลายปัจจัยที่ทำให้รัฐบาลของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อยู่ในสภาพ ง่อนแง่นดูจะเป็นประเด็นที่ไม่มีอะไรเกินไปจากความคาดหมาย ยิ่งเมื่อเป็นมอมมองของ "ฝ่ายค้าน" ที่มีต่อรัฐบาล จึงย่อมไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ตามที่ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์" รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าเป็นเรื่องธรรมดา ! คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะฝ่ายค้านมีหน้าที่ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล และเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลในทางการเมือง เพราะฉะนั้นจะให้ฝ่ายค้านพูดบวกให้รัฐบาลก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย ขณะเดียวกันรัฐบาลก็จะต้องชี้แจงในมุมบวกกับรัฐบาลว่าความจริงแล้วเป็นอย่างนั้นหรือไม่ หรือไม่เป็นอย่างนั้นด้วยเหตุผลอะไร อันนี้ก็คงต้องเป็นหน้าที่ของคนที่มีหน้าที่ รวมทั้งโฆษกรัฐบาลที่จะต้องชี้แจงว่าเป็นอย่างไรŽ (26 ธ.ค.64) แน่นอนว่า ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าสถานะของรัฐบาลจะง่อนแง่นมากหรือน้อยอย่างไร ย่อมเป็นเรื่องที่ "คนในรัฐบาล" ต่างรับรู้กันเป็นอย่างดี อยู่แล้ว โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจาก "พรรคพลังประชารัฐ" แม้จะเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล แต่กลับเต็มไปด้วยปัญหา และความขัดแย้งภายใน จนถึงขั้น "คุมไม่อยู่" การประคับประคอง ตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ในท่ามกลางสารพัดปัญหา ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา ทำเอาบรรดา "กองเชียร์" ใจหายใจคว่ำ กันมาหลายยก ขณะที่ "กองแช่ง" ก็มีหลายครั้งที่พากันดีอกดีใจ ว่ามีการเลือกตั้งขึ้นก่อนที่บิ๊กตู่ จะนำพา "เรือเหล็ก" อยู่จนครบเทอมไปถึงปี 2566 จะกลายเป็นการเปิดทางให้ พรรคเพื่อไทย พรรคฝ่ายค้าน หรือแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง "มีหวัง" ว่าจะได้มีโอกาสผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาทำหน้าที่ "พรรคแกนนำ" จัดตั้งรัฐบาลรอบหน้า แทนพรรคพลังประชารัฐ บ้าง อย่างไรก็ดี แม้รัฐบาลจะถูกท้าทายด้วยปัญหารอบด้านทั้งการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ปัญหาเศรษฐกิจ ไปจนถึงการเมือง รุมเร้าอย่างหนักก็ตาม แต่การที่จะให้พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศยุบสภาฯ แล้วเลือกตั้งใหม่ ไปก่อนครบวาระ ดูจะเป็นเรื่องยาก เพราะห้วงเวลานี้ คะแนนนิยมของรัฐบาลอยู่ในภาวะที่ต้องการระยะเวลาในการทำแต้ม สร้างความนิยม จนแน่ใจได้ว่า หากยุบสภาฯ แล้วเลือกตั้งใหม่ คนชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องได้กลับมาเป็นรอบที่สาม เท่านั้น !