ดัชนีเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.

ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(10) ประกอบมาตรา 101 (6) เนื่องจากข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายสิระ ถูกศาลแขวงปทุมวัน พิพากษาเมื่อปี 2538 จำคุกจริง จำนวน 4 เดือน และผู้เสียหายไม่เคยยอมความ หรือถอนคำร้องทุกข์คดีอันเป็นเหตุให้ศาลแขวงปทุมวันได้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความภายในระยะเวลาอุทธรณ์ เช่นนี้คำพิพากษาดังกล่าวจึงถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวัน ผู้ถูกร้องจึงเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ กระทำโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา ทั้งนี้เมื่อผู้ถูกร้องเคยถูกคำพิพากษาอันถึงที่สุด ว่ากระทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์ โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ผู้ถูกร้องจึงเป็นบุคคลมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) อันเป็นเหตุให้สมาชิกสภาพ ส.ส. ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ทั้งนี้สมาชิกภาพ ส.ส. ของนายสิระ สิ้นสุดลงบแต่วันเลือกตั้ง คือวันที่ 24 มีนาคม 2562 อย่างไรก็ตาม ผลพวงจากคำวินิจฉัยดังกล่าว ทำให้มีตำแหน่งส.ส.กทม.ว่างลง แต่ต้องดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 105 วรรค 1 (1) ประกอบมาตรา 102 จึงให้ถือว่าวันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลงคือวันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังโดยชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 76 วรรค 1 ที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลมีผลในวันอ่านคือวันที่ 22 ธ.ค. 2564 ดังนั้นอีกประมาณเดือนครึ่ง จะมีการเลือกตั้งส.ส.กทม. ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่จะต้องโฟกัสที่พรรคพลังประชารัฐจะส่งใครลงสมัคร ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่า มีแนวโน้มจะโยก นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ภรรยาของนายสิระจากเดิมวางตัวไว้เป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตดอนเมือง ย้ายกลับมาลงสมัครเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ของนายสิระแทน โดยให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณาอีกครั้ง ในขณะที่พรรคเพื่อไทยมีแนวโน้มที่จะส่งนายสุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เจ้าของพื้นที่เดิม ปัจจุบันก็ลงทำพื้นที่มาโดยตลอดต่อเนื่อง แต่ที่น่าสนใจ คือการที่พรรคประชาธิปัตย์ มีแนวโน้มส่ง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ มาลงแข่ฝในเขตนี้ ไม่มีการหลีกทางให้กับพรรคพลังปนะชารัฐ หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐเองก็ไม่ยอมหลีกทางให้ในการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ภาคใต้ และทำให้ถูกเจาะฐานเสียงที่ภาคใต้ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งส.ส.กทม.เขตหลักสี่ นอกจากจะเป็นศึกทวงแค้นของพรรคประชาธิปัตย์ และ จะถือเป็นสนามหยั่งเสียงของคนกรุงเทพฯ ของพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค ก่อนที่จะถึงศึกเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ทำให้มีการคาดการณ์ว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขตหลักสี่ จะชี้วัดว่าการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ กระทั่งมีการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะลากยาวออกไป และไม่แน่ใจว่า การเลือกตั้งส.ส.ทั่วไปอาจเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเลยทีเดียว