การมาของ "เดชอิศม์ ขาวทอง" ส.ส.สงขลา ที่ก้าวขึ้นเป็น "รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่" กำลังกลายเป็น "จุดโฟกัส" ทางการเมือง ที่น่าสนใจไม่น้อย นอกเหนือไปจากบรรยากาศการประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์อันคึกคักเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ เมื่อรองหัวหน้าพรรค ภาคใต้ คือ ส.ส. สมัยแรก ขณะที่ "แคนดิเดต" คือ "ชินวรณ์ บุณเกียรติ" ส.ส.นครศรีธรรมราช หลายสมัย แต่ที่สุดแล้วเมื่อผลการลงคะแนนปรากฎว่า เดชอิศม์ เอาชนะ ชินวรณ์ ไปได้ชนิดทิ้งห่าง โดยเดชอิศม์ ได้ 58.9 เปอร์เซ็นต์ ส่วนชินวรณ์ ได้คะแนน 39.4 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้รองหัวหน้าพรรค ภาคใต้คนใหม่ คือเดชอิศม์ การเปลี่ยนแปลงในส่วนของรองหัวหน้าพรรค ภาคใต้ ครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการลาออกของ "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" ทั้งจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค และล่าสุดเมื่อต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมานิพิฎฐ์ ยังลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ทั้งที่อยู่กับพรรคมานานถึง 29 ปี ภาพความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ เพราะนอกเหนือไปจากการลาออกจากพรรคของนิพิฎฐ์ รายล่าสุดแล้ว ในวันประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อวันเสาร์ที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา "อันวาร์ สาและ" ส.ส.ปัตตานี และอดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินทางมาร่วมประชุมยังจงใจทิ้งบอมบ์ ด้วยการฟาดไปยัง "นิพนธ์ บุญญามณี" รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในพรรค จนทำให้นิพนธ์ สวนกลับว่า "ข้าวไม่มียาง" ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ อาจไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะหากมองย้อนกลับไป จะพบว่าการที่พรรคเป็นสถาบันการเมือง มีอายุยืนยาวมาถึง 7 ทศวรรษ หลายต่อหลายครั้งก็เกิด ศึกในŽ งัดข้อกันเอง แต่ในสถานการณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์ ต้องเร่งจัดทัพเพื่อเตรียมตัวลงสนามเลือกตั้ง อีกทั้งการเลือกตั้งรอบหน้า "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" ในฐานะหัวหน้าพรรค จะต้อง "กอบกู้" พรรค หลังจากที่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคพ่ายแพ้อย่างยับเยิน เมื่อพื้นที่ภาคใต้และ กทม.อันเป็นฐานเสียงหลัก ถูก "ฝ่ายตรงข้าม" เข้ามาเจาะ กวาด ส.ส.ไปได้อย่างน่าใจหาย การก้าวขึ้นมาทำหน้าที่รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ของเดชอิศม์ ครั้งนี้ เจ้าตัวประกาศ จะกวาด ส.ส.ภาคใต้ให้ได้ถึง 35 ที่นั่ง เป็นอย่างต่ำแล้ว อีกนัยยะหนึ่ง ยังเป็นการส่งสัญญาณว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ถอยให้กับ "คู่แข่ง" อย่างพรรคพลังประชารัฐ ที่แม้ใน ครม.จะเป็น "เพื่อนร่วมรัฐบาล" ด้วยกันก็ตาม หากแต่งานนี้ มีรายงานว่า เดชอิศม์ ได้รับแรงหนุนจาก "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จึงเกิดภาพ ส.ส.สงขลา สมัยแรกอย่างเดชอิศม์ กล้าเสนอตัวชนกับชินวรณ์ ส.ส.อาวุโส ของพรรค เพราะว่ากันว่า "แกนนำพรรค" ในปีกของ จุรินทร์ -นิพนธ์ และเฉลิมชัย ต้องการใช้บริการ "มือทำงาน" ประเภท ใจถึง พึ่งได้ มีพรรคพวก เพื่อนฝูง อยู่หลายพรรค รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งเป้า "แก้มือ" เพื่อกลับมาทวงแชมป์ในภาคใต้คืนให้ได้ !