ถึงแม้พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นพรรคการเมืองแรกที่ชิงเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในขณะที่พรรคการเมืองใหญ่อีก 2 พรรคทั้งพรรคเพื่อไทยและ พรรคพลังประชารัฐยังสงวนท่าที ว่าจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือไม่และจะสนับสนุนว่าที่ผู้สมัครอิสระรายใด โดยอ้างเรื่องของการคัดคะแนนนิยมกันเอง อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ส่งสัญญาณว่าการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะมีขึ้นไม่เกินกลางปีหน้า พร้อมกับเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครไปพร้อมกัน โดยยืนยันว่าไม่ได้ต้องการจะดึงอะไรทั้งสิ้น อะไรที่ปล่อยได้ก็ปล่อยหมด แต่สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรมันจะแก้ปัญหาต่างๆ ที่ค้างคาได้ ผู้ว่าฯคนใหม่ก็ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ด้วย เหมือนที่ตนเองเข้ามา ก็มีปัญหาที่ต้องแก้ไขมากมาย มันก็ไม่ง่ายนักหรอก แต่ก็ต้องทำให้ได้นั่นคือคุณสมบัติของผู้ว่าฯกทม. ไม่ว่าใครก็ตามทำตามกฎหมายทุกประการอย่าบกพร่อง ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมว่า นายกรัฐมนตรีได้พูดเรื่องนี้ในที่ประชุม โดยย้ำว่าจะให้มีการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครช่วงกลางปี 2565 ส่วนจะเป็นวันไหนขึ้นอยู่กับ คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต. เป็นผู้กำหนด โดย ครม.จะเป็นผู้ให้สัญญาณไปถึง กกต. แต่เวลานี้ ครม.ยังไม่ส่งสัญญาณใดๆ สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ ฉบับวันเสาร์ที่ 11 ธ.ค.-วันศุกร์ที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมาคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ความว่า “แม้จะมีข่าวปล่อยออกมาสร้างสีสันทางการเมือง ว่าพรรคพลังประชารัฐเตรียมส่ง ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร หรือฉายา "ผู้ว่าฯ หมูป่า" ลงสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หลังจากที่หลายฝ่ายลุ้นกันมาพักใหญ่หลังได้รับแต่งตั้งมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ขยับใกล้เมืองหลวง แต่ก็ไม่มีแกนนำพรรคพลังประชารัฐออกมายืนยัน ซึ่งผู้ว่าฯหมูป่า หรือ "ณรงค์ศักดิ์"นั้น ยังมีอายุราชการเหลืออีกถึง 4 ปี และมีลุ้นถึงตำแหน่งปลัดกระทรวงคลองหลอด ผู้คร่ำหวอดทางการเมืองจึงมองกันว่า ผู้ว่าฯหมูป่าไม่น่าจะเสี่ยงลาออกมาลงสนามนี้ นั่นเท่ากับว่าพรรคพลังประชารัฐเองก็ยังไม่มี "ตัวเลือก" ที่จะส่งลงสมัครผู้ว่าฯกทม. จึงทำให้มองได้ว่าการดึงเกมเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ให้ลากยาวออกไป ก็เพราะความไม่พร้อมของพรรคพลังประชารัฐเอง ทั้งไม่มีไพ่จะเล่น รวมทั้งยังต้องการฉุดกระแสความนิยมให้ฟื้นขึ้นมาก่อน ด้วยการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.นั้น มีความสัมพันธ์กับสนามการเมืองใหญ่ด้วย” ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นายกรัฐมนตรีจะมีท่าทีเช่นนี้ และเมื่อการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคครลากยาวออกไป ก็ชัดเจนว่ากระแสข่าวการยุบสภากลางปีหน้าก็จะเลื่อนและลากยาวออกไปจากหลักไมล์เดิมเช่นกัน