นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อมูลมาตรการใช้จ่ายลดค่าครองชีพจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐ 4 โครงการ ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง เฟส 3, โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้, โครงการเพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ณ วันที่ 2 ธ.ค. 2564 มียอดการใช้จ่ายของแต่ละโครงการ ผู้ใช้สิทธิ์สะสม รวม 41.32 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 211,041.2 ล้านบาท แบ่งเป็น
1. โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 26.22 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 184,823.7 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 93,934 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 90,889.7 ล้านบาท
2. โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 92,087 คน ยอดใช้จ่ายส่วนประชาชนสะสม 3,718 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย E-Voucher สะสม 194.9 ล้านบาท
3. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 13.55 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 20,518.4 ล้านบาท
4. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 1.46 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 1,786.2 ล้านบาท
โดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจช่วงไตรมาสสุดท้ายปลายปีกลับมาคึกคัก หลังจากรัฐบาลมีการผ่อนคลายและมาตรการเปิดประเทศ ตลอดจนการเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครอบคลุม 70% ของจำนวนประชากร เพื่อให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงปลายปีกับเทศกาลปีใหม่ ประชาชนที่ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 และยิ่งใช้ยิ่งได้ ไว้แล้วสามารถใช้สิทธิ์ได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชนและสร้างเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจช่วงปลายปีได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม มีความกังวลจากภาคเอกชน ในส่วนของน.ส.ประภัสสร รังสิโรจน์ นายกสมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ด เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า หลังจากสิ้นสุดมาตรการแล้วสถานการณ์จะเป็นอย่างไรเนื่องจากการฟื้นตัวไม่ได้หวือหวา ประกอบกับที่มีการพบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนทำให้สถานการณ์ทุกอย่างที่กำลังค่อยๆปรับฟื้นตัวดีขึ้นหลายอย่างต้องหยุดชะงัก ในขณะที่การจัดงานเทศกาลปีใหม่หากไม่สามารถทำได้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศอาจสะดุดลง (สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็นวันที่ 5 ธันวาคม2564)
กระนั้น แนวโน้มการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลต้าที่จะเข้ามาเป็นปัจจัยท้าทายนโยบายเปิดประเทศและการต่ออายุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลต้องเตรียมอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในห้วงต้นปี 2565 ที่ต้องสร้างเกราะป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น แม้หลายฝ่ายยังกังวลว่าจะเกิดล็อกดาวน์อีกครั้งหรือไม่หลังปีใหม่ ก็ขอให้เป็นเพียงแค่ความห่วงใยที่ไม่มีวันเป็นจริง