ก่อนหน้านี้ "ศุภชัย ใจสมุทร" ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาระบุว่า เมื่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2564 มีผลบังคับใช้แล้ว และเวลานี้อยู่ในกระบวนการการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญอีก 2 ฉบับ คือ ร่างแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง และ ร่างแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ตามมา
สำหรับพรรภูมิใจไทยเอง ได้เตรียมการจัดประชุมใหญ่ ในวันที่ 19 ธ.ค. 64 นี้ ที่ จ.นครราชสีมา มีวาระสำคัญคือการเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ดังนั้นหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 ไม่รุนแรง การจัดประชุมพรรคภูมิใจไทย จะมีขึ้นตามกำหนดการเดิมที่โคราช ในช่วงกลางเดือนนี้
การเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากที่มีความชัดเจนว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะใช้ บัตร 2ใบ จำนวนส.ส.เขตเพิ่มขึ้นจากเดิม คือ350 เป็น 400 คน ส่วนส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลดเหลือ เหลือ 100 ที่นั่งนั้น ดูจะเงียบเชียบ ไม่หวือหวานักเมื่อเทียบกับพรรคการเมืองใหญ่ ทั้ง เพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ หรือแม้แต่พรรคก้าวไกล ที่เพิ่งพ่ายศึกเลือกตั้งสนามอบต. ซึ่งเป็นสนามเลือกตั้งการเมืองระดับท้องถิ่นสนามสุดท้าย
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ที่มี "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นหัวหน้าพรรค ที่แม้จะเป็นพรรคการเมืองอันดับสอง ในพรรคร่วมรัฐบาล รองจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ถูกจับตามองมาโดยตลอดว่าเป็นพรรคการเมืองที่ เนื้อหอม เนื่องจากมี ส.ส. งูเห่าจากพรรคฝ่ายค้าน ย้ายเข้าซบ พรรคภูใจไทย อีกทั้งยังเป็นพรรคการเมืองที่เปิดเกมบุกเข้าไป "เจาะฐาน" ในหลายพื้นที่ ซึ่งเคยมี "เจ้าถิ่น" อย่าง พื้นที่เลือกตั้งภาคใต้ เมื่อการเลือกตั้งส.ส. 2562 ที่ผ่านมา โดยได้ถึง 8 ส.ส.
และในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคภูมิใจไทย ที่แม้จะเลือกบทโลว์โปรไฟว์ แต่กลับมีรายงานว่า มี "ตัวหลัก" ทั้งส.ส.ปัจจุบัน และอดีตส.ส. บางพรรค เตรียมเข้าสังกัด โดยล่าสุด "นัจมุดดีน อูมา" อดีต ส.ส.นราธิวาส ได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคประชาชาติ เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้มีปัญหาใด ๆกับ "วันมูหะมัดนอร์ มะทา" หัวหน้าพรรคประชาชาติ แต่ในเมื่อตนเองต้องการที่จะเล่นการเมืองอีก และเห็นว่า พรรคภูมิใจไทยคือพรรคที่อยู่ตรงกลาง ไม่ซ้ายหรือขวา จึงทำให้การทำงานในพื้นที่ไม่ยากลำบากมากนัก
ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า การจัดประชุมพรรค ที่โคราช ของภูมิใจไทย ครั้งนี้ด้านหนึ่งคือการเข้ามาประกาศความพร้อมในพื้นที่ใหญ่ ในภาคอีสานแล้ว อีกด้านหนึ่ง "เนวิน ชิดชอบ" ตัวจริงเสียงจริงของพรรค ที่แม้ไม่มีตำแหน่งใดๆ แต่กลับมากบารมี ต้องการส่งสัญญาณ มายัง ส.ส.ในโซนอีสานของพรรคเอง โดยเฉพาะ ส.ส.โคราช ว่าต้องอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมในทุกๆด้าน
ส่วนก่อนหน้านี้ที่เคยมีข่าวว่า วิรัช รัตนเศรษฐ์ ส.ส.นครราชสีมา และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ และครอบครัวรัตนเศรษฐ์ เตรียมยกครอบครัวไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งรอบหน้านั้น คงจะห่างไกลจากความเป็นจริง เว้นแต่จะมี ใครบางคน ฉวยจังหวะที่ภูมิใจไทย จะมาประชุมใหญ่ที่โคราช ปล่อยข่าวเขย่ากันเองภายในพรรคพลังประชารัฐ ก็เท่านั้น !