สุดท้าย เบอร์ใหญ่ ระดับ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต้องออกมาตอบโต้ด้วยตัวเอง กระแทกตรงไปยัง ใครบางคน ในพรรคเดียวกัน ที่เล่นเกม ปล่อยข่าว ว่า กลุ่มสามมิตร จะย้ายกลับไปอยู่พรรคเพื่อไทย บ้านหลังเก่า เป็นเรื่องของงาน บางคนไม่มีโอกาสได้ทำงานในส่วนของรัฐบาล ของใครต่างๆ ไปถามสื่อฉบับแรกที่เขียนออกมา เรารู้กันหมดแล้วว่าใครเป็นคนที่เริ่มตรงนี้ เราอย่าไปทำลายกัน ผมก็ไม่อยากที่จะพูด และยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องข่าวที่ออกมา ผมได้สอบถามคนที่รักกันในการเมืองไม่มีใครพูดคุยและไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น" (30 พ.ย.64) ใคร คือ คนบางคน ที่สมศักดิ์ พูดถึง และที่สำคัญยังเป็น คนไม่มีโอกาสทำงานในรัฐบาล นั้นได้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเงื่อนปมนี้จะเกี่ยวพันไปถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ เพราะอย่าลืมว่า ระหว่างร.อ.ธรรมนัส กับกลุ่มสามมิตร ต่างอยู่ในบรรยากาศที่คุกรุ่น จากปัญหาการปรับโครงสร้างพรรคที่ผ่านมา รวมถึงการที่กลุ่มสามมิตร ทำหน้าที่เป็น แรงหนุน อยู่ขั้วเดียวกับ บิ๊กตู่พลอ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อย่างไรก็ดี เมื่อวันประชุมครม.เมื่อวันอังคารที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ สมศักดิ์ จะออกโรง ออกหน้ามาประดาบกับ ใครบางคน เท่านั้น แต่ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และกรรมการบริหารพรรค หนึ่งในกลุ่มสามมิตร ยังข้องใจว่า ใคร ที่ออกมาปล่อยข่าว "ผมก็สงสัยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าใครปล่อยข่าวนี้ออกมา แต่พวกเรายืนยันไปแล้วว่ากลุ่มสามมิตรยังอยู่พรรคพลังประชารัฐ ตลอดไป และไม่ทราบว่าคนที่ปล่อยข่าวนี้มีวัตถุประสงค์อย่างไร" พร้อมกันนี้สุริยะ ยังเชื่อว่า ทั้ง บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ และ บิ๊กป้อมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าใจ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องชี้แจงใด ๆ เพราะกลุ่มสามมิตร ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ในมุมของ แกนนำกลุ่มสามมิตร ที่ออกตัวสวนกลับ ใครบางคน ประหนึ่งว่าเป็นคนจงใจปล่อยข่าวนั้น แต่ในขณะเดียวกันกลับมีรายงานที่น่าสนใจว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า ที่มาที่ไปอาจจะมาจาก กลุ่มสามมิตรเองที่ใช้กลยุทธ์ ปล่อยข่าว เพื่อกดดันไปยัง ร.อ.ธรรมนัส เพื่อต้องการส่งสัญญาณให้เห็นว่า กลุ่มสามมิตร ใช่ว่าจะไร้ที่ไป จึงชิงใช้สื่อเพื่อประโคมข่าว กระตุกให้ทั้ง บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม หันมาให้ความสำคัญ และทำให้กลุ่มได้สร้างอำนาจในการต่อรองขึ้นภายในพรรค ทั้งนี้ ปฏิบัติการใช้ข่าวลือ ข่าวปล่อย ที่กำลังเกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ แท้จริงแล้วอาจเป็นเรื่องราวจากปัญหาภายในระหว่างกลุ่มการเมือง ที่ยืนตรงข้ามด้วยกันเอง ทั้งที่รู้ว่าการตัดสินใจยุบสภาฯ เพื่อเลือกตั้งใหม่ ตามอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ นั้นยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าการดำรงอยู่ในพรรคใหญ่จะไม่รักษาที่อยู่ ที่ยืนของตัวเอง !