สู้ปัญหาว่างงาน

จากกรณีที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ รายงานข้อมูล สถานการณ์การว่างงานในไตรมาส 3 ของปี 2564 เพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่มีการระบาดของ โควิด โดยมีผู้ว่างงาน 8.7 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน 2.25% สูงสุดในรอบหลังจากที่เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ แต่น้อยกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540 ซึ่งอัตราว่างงานอยู่ที่ 5% โดยพบว่าผู้ที่มีการว่างงานสูงสุด 3.63% เป็นผู้ที่มีศึกษาระดับอุดมศึกษา รองลงมาเป็น ปวส. 3.16% โดยผู้ว่างงานส่วนใหญ่จบในสาขาทั่วไป (บริหารธุรกิจ การตลาด) จึงมีแนวโน้มประสบปัญหาการว่างงานยาวนานขึ้นเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้อย่างจำกัดและคนกลุ่มนี้ที่มีทักษะไม่ต่างกันจึงหางานได้ยากขึ้น ขณะที่แรงงานที่มีอายุ 15-19 ปี มีอัตราการว่างงานสูงสุด 9.74% รองลงมาเป็นอายุ 20-24 ปี ที่ 8.35% สะท้อนว่าโควิดที่ส่งผลกระทบต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการที่เคยชะลอการเลิกจ้างบางส่วนไม่สามารถรับภาระต่อได้และจำเป็นต้องเลิกจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น ส่วนเด็กจบใหม่ยังไม่มีตำแหน่งรองรับนั้น นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ระบุว่า ประเด็นคนว่างงานอาจเป็นข้อมูลที่ยังไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานขอชี้แจงว่า หากพูดถึงประเด็นดังกล่าว กระทรวงแรงงานจะใช้ฐานข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) โดยตัวเลขผู้ประกันตนที่ออกจากงาน มีจำนวนตรงตามที่สภาพัฒน์ระบุ แต่ยังมีข้อมูลของคนที่เข้าสู่ระบบประกันสังคมใหม่อีกกว่า 470,000 ราย และนักศึกษาจบใหม่ที่เข้าสู่ตลาดแรงงานอีก 400,000 ราย การไปดูว่ามีผู้ว่างงานประมาณ 8.7 แสนราย แต่ยังไม่ได้ดูถึงคนที่เข้าสู่ระบบการทำงาน หรือตลาดแรงงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้เห็นชอบ มาตรการสินเชื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยธนาคารออมสินจะปล่อยกู้ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ ผู้ที่เริ่มต้นประกอบอาชีพ ผู้ประกอบการขนาดย่อม และผู้ขับขี่รถสาธารณะ โดยขอสินเชื่อได้ตั้งแต่ 5 หมื่นบาท และสูงสุด ไม่เกิน 3 แสนบาท และมีอัตราดอกเบี้ย เพียง 3.99% ต่อปี ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 5 ปี ปลอดการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก รวมทั้ง ครม.ได้อนุมัติงบประมาณสำหรับการชดเชยกรณีเกิดหนี้ที่ไม่ก่อรายได้ในโครงการนี้ ในอัตรา 30% ของวงเงินที่ปล่อยกู้ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท ทั้งนี้ เราเชื่อว่า มาตรการสินเชื่อจะช่วยบรรเทาวิกฤติการว่างงานลงได้ ประกอบการเดินหน้าเปิดประเทศที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตั้งแต่ระดับรากหญ้า เพื่อให้ไทยพ้นวิกฤติ